ATIME ฟังเพลงออนไลน์ วิทยุออนไลน์ ดูรายการออนไลน์

News Updates

SoundAbout Mountain FestAtime Showbiz
13 ก.ย. 2023
Ticket Now

SoundAbout Mountain Fest

ปลายปีนี้ Atimeshowbizชวนมาฟัง”เสียงของภูเขา” กับ ”Soundเพลงเก่า”ที่คิดถึงใน"Soundabout Mountain Fest"มิวสิคเฟสติวัลที่”โรแมนติก”ที่สุดของคนยุค 90sพบกับแอม เสาวลักษณ์ •ใหม่ เจริญปุระ • มาช่า วัฒนพานิช •ก้อง สหรัถ •ป๊อด ธนชัย •บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ •และ ดา เอ็นโดรฟิน2 ธันวาคมนี้ Midwinter เขาใหญ่•ขายบัตร 25 ก.ย. ที่ Thaiticketmajorบัตรราคาพิเศษ Early Bird 2,200 บาท* (จากราคาเต็ม 2,800 บาท)*ราคานี้ 25 ก.ย. - 5 ต.ค. เท่านั้นLink ขายบัตร : https://bit.ly/soundabout#SoundAboutMountainFest#Atimeshowbiz

Peck Aof Ice InFriendnity ConcertAtime Showbiz
31 ก.ค. 2023
Ticket Now

Peck Aof Ice InFriendnity Concert

ความคิดถึงมากเกินคำบรรยาย…การกลับมารวมตัวของ 3 เพื่อนซี้ในรอบ 15 ปีเตรียมฟินไปกับความสนุกแบบเหนือความคาดหมาย ในคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอยThe Concert Application Presents“Peck Aof Ice InFriendnity Concert”- Friend สนิท Fin สนั่น -ขายบัตร 2 กันยายนนี้ที่ The Concert Applicationหรือ www.theconcert.comบัตรราคา : 5,500 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,5002 รอบแสดง ฟินแบบฟูลออฟชั่น•เสาร์ที่ 4 และ อาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566Royal Paragon Hall 5 Fl., สยามพารากอนติดตามรายละเอียดได้ที่FB: AtimeshowbizFB: GMM SHOW#PeckAofIceInFriendnityConcert#15thAnniversaryPeckAofIce#FriendสนิทFinสนั่น#TheConcertApplication------------------------------------------------------------------------------------เงื่อนไขการจำหน่ายบัตร• เริ่มจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2566 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป• จำกัดการซื้อบัตรไม่เกิน 10 ใบ ต่อการทำรายการซื้อ 1 ครั้ง• ขายบัตรในรูปแบบ E-Ticket ผ่านทาง The Concert Application (สามารถใช้ได้ทั้ง ios และ android) หรือ www.theconcert.com เท่านั้น•มีบัตรแข็งที่ระลึก• ลูกค้านำ QR Code ที่ได้รับบนแอปฯ ที่แสดงสถานะ “ใช้ได้” มาแสดงที่ประตูทางเข้า เพื่อยืนยันการเข้างาน พร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน โดย QR Code 1 ใบต่อการเข้างาน 1 คนเท่านั้น• ลูกค้าที่มี QR Code ในโทรศัพท์มากกว่า 1 ใบต้องทำการส่งบัตรให้ผู้ที่มาร่วมชมงาน โดยการส่งทางแอปฯ เท่านั้น ไม่สามารถแสดงที่ประตูทางเข้าเพื่อเข้างานแทนกันได้• QR Code ที่ถูกสแกนแล้วจะแสดงสถานะ “ใช้งานแล้ว” และไม่สามารถนำมาสแกนซ้ำได้• บัตรจำหน่ายทาง The Concert Application,ทางเวปไซต์ www.theconcert.com เท่านั้น หากซื้อจากช่องทางอื่นๆ ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น• ทางผู้จัดงานไม่อนุญาตให้นำบัตรไปใช้ประโยชน์ทางการค้า,การทำโปรโมชั่นกับสินค้า เช่น การลด, แลก, แจก, แถม เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากทางผู้จัดงาน• ไม่จำกัดอายุผู้เข้างาน / เด็กส่วนสูงเกิน 100 ซม. ต้องซื้อบัตรเข้าชมการแสดง• โปรดระวังมิจฉาชีพที่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ เช่น การรับจองบัตร การให้โค้ดจอง การซื้อ-ขายบัตรนอกระบบ การแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัทฯ เป็นต้น• ทางผู้จัดงานขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า• ดูรายละเอียดขั้นตอนการซื้อบัตร,การส่งบัตร และรับบัตรได้ที่ https://www.theconcert.com/helpcenter/• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง fanpage : theconcertapplication และ LINE@ : @theconcertapp ในเวลาทำการ 10.00 - 20.00 น. (ไม่มีวันหยุด)-------------------------------------------------------* ภายในงานของเรา มีการเก็บบันทึกภาพนิ่ง-ภาพเคลื่อนไหว ของผู้ชมและบรรยากาศภายในงานเพื่อการเผยแพร่สื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และสื่อบันทึกงานคอนเสิร์ตในเชิงพาณิชย์ ผ่านช่องทางออนไลน์ และสื่อการตลาดอื่น ๆ

GOTCHA POP ConcertAtime Showbiz
29 มิ.ย. 2023
Ticket Now

GOTCHA POP Concert

“ คอนเสิร์ตรวมด้อม T-Pop ตัวท็อปแห่งยุคฟินกับ Hidden Show สุดเซอร์ไพรส์ “เตรียมโดนตกเข้าด้อม กับบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปที่มาแรงที่สุดใน พ.ศ. นี้TRINITY (ทรินิตี้) Trio ตัวท็อป ที่ยกระดับบาร์ T-Pop !!4EVE (โฟร์อีฟ) ครองบัลลังก์ Girl Group อันดับ 1 แห่งยุคATLAS (แอทลาส) ตัวตึง Boy Group เจ้าของเพลงทะลุชาร์ต!!PROXIE (พร็อกซี) Boyband ที่สร้างปรากฏการณ์ "คนไม่คุย" ทั้งประเทศ!LAZ1 (ลาซวัน) Boyband ที่แฟนเพลงเรียกร้องให้ ComeBack มากที่สุด !!PERSES (เพอร์เซส) Teen Idols ที่พกฝีมือและความน่ารักระดับทำลายล้างและLYKN (ไลแคน) Boy Group น้องใหม่ ฝีมือระดับ Alpha ที่กำลังมาแรงที่สุดเตรียมกรี๊ดให้สุดเสียง กับ Hidden Show Big Surprise จากศิลปินแบบที่คาดไม่ถึงสร้างปรากฏการณ์เคมีความ POP แบบใหม่ฟินกว่าครั้งไหน ๆ ที่เคยเจอ…ในGotcha Pop Concertวันแสดง 9 กันยายน 2566 ที่ Union Hall , ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ รอบเดียวเท่านั้นราคาบัตร : บัตรยืน 2,500 บาท, บัตรนั่ง 3,500 / 3,000 / 2,500 และ 2,000 บาทจำหน่ายบัตร 8 กรกฎาคม 2566 (เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป) ทาง ThaiticketmajorLink : https://bit.ly/Gotchapopconcertรายละเอียดเพิ่มเติม : www.facebook.com/atimeshowbiz และ www.twitter.com/atimeshowbizประกาศลำดับ และ เวลาการรันคิวโซนยืน สำหรับคนที่รับบัตรแข็งแล้ว ตรวจเช็คกันได้เลย !!Link : http://bitly.ws/S4G8

ตอนนี้อายุ 17 แต่ลังเลกับชีวิต... จะเลือก 'ลาออก' จากโรงเรียน แล้วไปหางานทำ หรือ 'เรียนต่อ' จนจบดี ตัดสินใจไม่ได้ รู้สึกเหมือนเปลืองเงินพ่อแม่ไปวันๆEFM
01 ธ.ค. 2023
พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ตอนนี้อายุ 17 แต่ลังเลกับชีวิต... จะเลือก 'ลาออก' จากโรงเรียน แล้วไปหางานทำ หรือ 'เรียนต่อ' จนจบดี ตัดสินใจไม่ได้ รู้สึกเหมือนเปลืองเงินพ่อแม่ไปวันๆ

“คุณชาเย็น (นามสมมติ)” อายุ 17 ปี สายที่สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม กับปัญหาที่ว่าจะเรียนต่อหรือลาออกมาทำงานดีเพราะว่าสงสารพ่อแม่ที่ทำงานลำบากมาส่งตัวเองเรียน โดย “คุณชาเย็น (นามสมมติ)” ได้เริ่มปรึกษาว่า ‘หนูเลือกที่จะเรียนต่อ หรือว่าเลือกที่จะออกจากโรงเรียนดี หนูสงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานส่งหนูเรียนเพราะว่าหนูเป็นคนที่ไม่เข้าเรียน ชอบโดดเรียน เพราะในห้องหนูไม่มีเพื่อนเลย ก็จะโดดเรียนไปนั่งที่โรงอาหารกับเพื่อนห้องอื่น เพื่อนในห้องเดียวกันก็ไม่มีใครพูดกับหนู เพราะเขาเห็นหนูเป็นคนไม่ดีกันไปหมดแล้ว หนูเคยขึ้นไปเรียนครั้งนึง เรียนไปหนูก็ไม่มีความสุข หนูสงสารพ่อแม่ที่ต้องทำงานหาส่งหนูเรียน หนูเห็นท่านทำงานลำบากแล้วสงสาร หนูเลยคิดว่า ออกทำงานดีไหมเพื่อหาเงินให้พ่อแม่บ้าง อยากหาเงินมีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง ตอนนี้หนูอยู่ ม.4 หนูคิดว่าจะไปทำเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วก็ไปเรียน กศน. เอาวุฒิม.6 ไปต่อมหาวิทยาลัยหนูคิดไว้ว่าอย่างนี้ หนูอยากปรึกษาว่าหนูควรลาออกมาทำงานหรือว่าควรจะเรียนต่อดี’ โดยเริ่มที่ “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเก ไม่เรียนหนังสือ ไม่ตั้งใจ เพื่อนพี่ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน พี่มีทั้งกลุ่มที่เป็นเด็กเรียน และไม่เรียน แต่พี่ชอบเอาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มเด็กเกเร เพราะพี่มีปัญหาทางบ้าน บ้านพี่ไม่ค่อยอบอุ่นพี่ก็เลยไปทำอะไรแบบนั้น แต่คนที่เป็นรุ่นราวคราวเดียวหรือกลุ่มเกเรของพี่ ไม่ตายก็ติดคุก ไม่ติดคุกก็ติดยาแล้วก็เป็นบ้า ทั้งหมด 30 กว่าคน มีพี่รอดคนเดียว พี่เลยไม่แน่ใจว่าชาเย็นจะเป็น 1 ในคนที่รอดไหม ที่พี่รอดเพราะพี่หันกลับมาเรียนในวันหนึ่ง พี่เลือกที่จะไม่ติดยาแล้วก็ตายไปกับเพื่อน พี่เลือกวกกลับมา แล้วพี่รู้สึกเสียดายเวลาที่ ณ เวลานั้น กูไปทำอะไรอยู่วะ พี่ก็คิดแบบนี้ พี่อยากได้เงิน แต่การอยากได้เงินของพี่ พี่มีเป้าหมายในชีวิต ก็คือหาเงินเรียนในสิ่งที่ต้องการ พี่ฟังชาเย็น พี่ไม่เห็นเป้าหมายที่มันแข็งแรง เป็นเป้าหมายระยะสั้นๆ จะไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟแบบนี้ พี่ว่าความทะเยอทะยานมันน้อยไปหน่อย ถ้าเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วต้องไปเรียนต่อ สุดท้ายมันก็ต้องไปเรียนต่อ แล้วปัญหาที่เพื่อนไม่คุยกับเรา มันไม่แปลกหรอกเพราะเราไปอยู่กลุ่มที่มันคนละเคมีกับเขา ถ้าวันนี้เราอยากกลับไปอยู่ ในสังคมที่เพื่อนเขาคุยกับเรา เราก็ลองคุยกับเขาก่อน เราไปตั้งใจเรียนไปอยู่ในกลุ่มของเขา มันมีวิธีในการเขาหาเพื่อนได้เยอะแยะ พี่ว่าโลกข้างนอกอันตรายเกินไป แต่มันก็อยู่ที่ใจชาเย็นนะ ถ้าอยากออกมาหาเงินจริง ๆ อันนี้ต้องคุยกับพ่อแม่ เราก็ลองปรึกษาเขาว่าให้หนูออกมาทำงานดีไหม หนูอยากหาเงิน แต่เป้าหมายต้องแข็งแรงกว่านี้หน่อยว่าทำงานอะไร ต้องการเงินเท่าไหร่ พี่ว่าการเรียนหนังสือมันก็ให้อะไรมากกว่าที่เราคิด วุฒิการศึกษามันสามรถทำให้ง่ายกับการเปลี่ยนอาชีพ สมมติว่าอยากไปทำธุรการ ไปเรียนคุณครู แบบนี้เขาดูวุฒิการศึกษา ยกเว้นชาเย็นจะบอกว่าหนูอยากจะไปเป็นเน็ตไอดอล หนูสามารถทำเงินได้ 100 ล้าน ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา แต่ต้องถามตัวเองว่าแล้วเราชอบทางนี้ไหม หรือเรามีความสามารถทางนี้ไหม ถ้าวันนี้เรายังไม่รู้ตัวเองว่าต้องการอะไรหรือชอบอะไร พี่ว่าการเรียนไปก่อนเป็นสิ่งที่ดี พี่แนะนำแบบนี้ แต่ถ้าอยากจะออกจริงๆ ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เราต้องการเงินนี้ไปทำอะไร เพื่ออะไรแล้วเลือกอาชีพที่เหมาะกับเรา’ ต่อมาที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘เราอยู่กับเพื่อนแบบไหนก็มีความเป็นไปได้ว่าเราจะกลายเป็นคนแบบนั้นเยอะมาก เลือกอยู่กับคนที่จะพาเราไปสู่สิ่งที่ดี พาเราเจริญขึ้น อันนี้คำแนะนำแรก คำแนะนำที่สอง ถ้าสงสารคุณพ่อคุณแม่จริงๆ สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือทำให้เงินที่เขาจ่าย กลับมามีค่ากลับมาคุ้มค่า ไม่ยากเลยแค่เดินขึ้นไปเรียน ขึ้นไปแล้วเขาไม่คุยด้วยไม่แปลกครับเพราะว่า ชาเย็นบอกเคยขึ้นไปครั้งเดียวแล้วใครจะคุยกับหนูล่ะลูก เพราะเขาเรียนกันมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว หนูเพิ่งเคยขึ้นไปครั้งเดียว ถ้าสมมติหนูเป็นคนที่นั่งเรียนอยู่ แล้วก็มีใครไม่รู้ที่โดดเรียนตลอดเลย แล้ววันหนึ่งมาเพิ่งขึ้นมา หนูจะไปสนิทกับเขาหรอ หนูจะอยากคุยกับเขาหรอ ต่อให้เขาไม่ได้มองว่าหนูเป็นคนดีหรือไม่ดีก็เถอะ เขาก็ไม่ได้สนิทพอที่จะเดินเข้ามาคุย ถ้าเขารู้ว่าใครดีใครไม่ดีแล้วไม่อยากจะมาอยู่กับคนไม่ดี ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าชาเย็นจะบอก ชาเย็นไม่ใช่เป็นคนไม่ดี ชาเย็นแค่ขึ้นไปเรียนอยู่กับเพื่อนมันก็จะค่อยๆ รู้จักกันไปเอง ทีนี้ทำไมถึงอยากให้กับไปเรียน การเรียนให้มันจบอย่างน้อยคือการศึกษาขั้นต่ำ วุฒิการศึกษาที่ชาเย็นจะได้มันทำให้ชาเย็นจะเอาไปยื่นทำงานในอนาคตได้มากกว่าเยอะเลย แล้วโรงเรียนที่มีกฎระเบียบครอบไว้ชาเย็นยังไม่อยู่ แล้วถ้าไปเรียน กศน. ที่ไม่มีอะไรมาครอบไว้ ชาเย็นจะบังคับตัวเองได้หรอ แล้วจะจบไหม กศน. แล้วคิดว่าตัวเองจะสอบผ่านไหม จะเรียนตามเขาได้ไหมในเมื่อกฎของโรงเรียนหนูยังทำไม่ได้เลย พี่บอกสั้นๆ ว่า เรียนให้จบม.6 นี่เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดที่คนเราจะรับผิดชอบตัวเองได้’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘อยากให้เรียน เพราะว่าฟังจนถึงตอนนี้ พี่อาจจะรีบตัดสินเร็วเกินไปแต่พี่คิดว่าชาเย็นไม่น่ารอดในการออกไปทำงานและหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองแล้วจะกลับไปเรียน กศน. ไปต่อมหาวิทยาลัย พี่คิดแบบี้เลยนะ อย่างที่พี่เผือกถาม หนูเรียนตอนนี้ตามหลักสูตรปกติหนูยังทำไม่ได้ ที่มีเงินจากพ่อแม่ที่ส่งให้หนูไปเรียน แล้วการที่ต้องไปเรียนและทำงานไปด้วยพี่ว่ามันยากมากเลยนะ อันนั้นพี่จะเห็นในกรณีของคนที่เขาไม่มีโอกาส ไม่มีเงิน เขามีเป้าหมายว่า เขาทำงานเพื่อหาเงินเพื่อนส่งตัวเองเรียน กศน. อันนั้นพี่เข้าใจได้ และพี่เชื่อว่าแบบนั้นเขาจะประสบความสำเร็จ เขามีเป้าหมายในชีวิต แต่ตอนนี้ชาเย็นเหมือนเอาอันนี้มาแก้ปัญหาที่มันเป็นการแก้ปัญหาผิดวิธีมากเลย พวกพี่พยายามจะถามว่า การที่กลัวว่าพ่อแม่จะเสียใจที่ทำงานส่งหนูเรียน หนูก็แค่ไปตั้งใจเรียนให้มันจบ หนูบอกปัญหาเรื่องเพื่อน พี่บอกว่าปัญหาเรื่องเพื่อนแค่นี้หนูยังสู้มันไม่ได้ หนูยังกลัว โลกข้างนอกพี่ว่ามันเลวร้ายกว่านี้อีก หนูจะทำอย่างไรถ้าหนูไปเสิร์ฟแล้วโดนเจ้าของร้านโกง หนูจะทำอย่างไรถ้าโดนลูกค้าด่า เพื่อนร่วมงานไม่คบ หรืออะไรก็ตามมันเกิดขึ้นได้ทั้งหมด โลกข้างนอกพี่ว่ามันโหดกว่าในโรงเรียน เยอะ เพื่อนไม่คุยกับหนูเพราะคิดว่าหนูเกเร ปัญหาแบบนั้นสำหรับพี่ มันสามารถแก้ปัญหาได้ แต่หนูเลือกที่จะเอาตัวเองออกจากโรงเรียน กระโจนเข้าสู่สิ่งที่มันมันเยอะกว่านี้ถ้ามันจะเกิดปัญหาขึ้น แล้วสำหรับพี่ การเรียนมันทำให้พี่มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ มันไม่ใช่แค่วิชาความรู้ที่เราจะได้จากโรงเรียน แต่มันยังหมายถึงการที่เราจะรู้จักการปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน รู้จักการเข้าสังคม รู้จักการทำงานร่วมกับคนอื่น ซึ่งตอนนี้พี่คิดว่ามันเร็วมากเลยที่ชาเย็นจะตัดสินใจหันหลังให้มันเลย เพียงเพราะว่าเพื่อนไม่คุยกับเรา ชาเย็นแก้ปัญหาที่ผิดอยู่ตอนนี้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ลำบากในการหาเงินมาให้หนู หนูก็ต้องเห็นคุณค่าของมัน โดยการไปเรียนหนังสือและตั้งใจเรียน ช่วงม.ปลาย มันจะเป็นช่วงที่ทำให้หนูได้รู้ว่าหนูอยากเรียนเพื่อไปเป็นอะไร จะทำให้หนูได้รู้ว่าหนูชอบอะไร โลกภายนอกมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ที่หนูพูดพี่ว่าหนูยังไม่เจออะไรมาเลย สำหรับพี่ยังไงการเรียนก็สำคัญและมันก็ทำให้พี่เป็นผู้เป็นคนก็เพราะการเรียนนี่แหละ ทั้งเพื่อน คุณครู กิจกรรม ถ้าหนูเลือกออกมาแล้ว มันกลับไปหาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว คิดดีๆ นะ พี่อยากให้กลับไปเรียนหนังสือ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

สาววัย 20 กลุ้มใจ ทะเลาะแฟนโดนบีบคอ จนหายใจไม่ออก ตอนนี้ตัดสินใจจะยุติความสัมพันธ์ แต่พ่อแม่เค้าบอกว่า "ระวังจะเป็นฝ่ายแพ้นะ ถ้าเลิกกับลูกเค้า"EFM
01 ธ.ค. 2023
พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

สาววัย 20 กลุ้มใจ ทะเลาะแฟนโดนบีบคอ จนหายใจไม่ออก ตอนนี้ตัดสินใจจะยุติความสัมพันธ์ แต่พ่อแม่เค้าบอกว่า "ระวังจะเป็นฝ่ายแพ้นะ ถ้าเลิกกับลูกเค้า"

“คุณจี (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (29 พ.ย. 66) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับปัญหาที่ทะเลาะกับแฟนรุนแรง จนถึงขั้นโดนเขาทำร้ายร่างกาย แต่ครอบครัวแฟนกลับบอกให้เราอยู่ต่อ โดย “คุณจี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เพิ่งทะเลาะกับแฟนมา แล้วโดนบีบคอ แต่ทางฝั่งครอบครัวแฟนบอกให้อยู่ต่อ เพราะกลัวเราจะแพ้ คือเราเป็นเมียหลวง แต่ทีนี้แฟนหนูเขาไปมีมือที่สาม เรื่องราวเกิดขึ้นมาหลายครั้ง แต่ว่าครั้งนี้หนักที่สุด เราอยู่กับแฟนมา 3 - 4 ปี แล้วก็มีเรื่องมือที่สามมาตลอด โดยที่เขาไม่ได้มีคนเดิมแต่เปลี่ยนคนไปเรื่อย ๆ เวลาเราจับได้ เขาก็จะยอมเลิกแล้วเลือกเรา เหมือนว่าพอต่างคนต่างตัดสินใจไปมีคนอื่น สุดท้ายก็กลับมาหากันอยู่ดี หนูตัดสินใจมาอยู่กับเขาตั้งแต่เรียนอยู่ จนตอนนี้ก็ทำงานไปด้วย เรียนมหาลัยไปด้วย เขาก็คะยั้นคะยอตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ว่าให้เรามาอยู่ด้วยกับเขา ถ้าเรามาอยู่กับเขา เขาจะปรับปรุงตัว ก็ทำให้เราเชื่อ แต่หนูก็พยายามปฏิเสธมาตลอด จนกระทั่งสุดท้ายหนูตัดสินใจมา เพราะว่าทางครอบครัวหนูเองก็มีปัญหาเลยตัดสินใจมาอยู่กับเขา พอมาอยู่ ก็ทะเลาะกับเขา เรื่องที่ว่าก่อนหน้านี้เราเลิกกันไปแล้ว หนูก็มีผู้ชายคนอื่น แต่เราก็เคลียร์กันไปหมดแล้วก่อนที่จะมาอยู่กับเขา แต่เขาก็มาเห็นแชทที่เราคุยกับผู้ชายพวกนั้น จนเกิดการทะเลาะกันขึ้นมา เขาโมโหเรา แย่งโทรศัพท์กัน แล้วเขาก็บีบคอเรา คือเขาบีบคอเหมือนเราใกล้จะตาย บีบทั้งหมดสามรอบ โดยรอบแรกบีบเบา ๆ รอบสองหนักขึ้นเรื่อย ๆ พอมารอบที่สามหนูหายใจไม่ออกแล้ว ไม่มีใครห้ามเพราะไม่มีใครเห็น ที่เขาหยุดเพราะหนูพูดเบา ๆ ว่า “มึงบีบกูให้ตายไปเลย ให้ตายคามือมึงไปเลย” เขาเลยค่อย ๆ คลายมือเขาออก พอหนูเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวแฟนฟัง ตอนแรกเขาก็จะให้หนูกลับไปอยู่บ้านหนู แต่สุดท้ายเขาไม่ให้หนูกลับ เพราะเขากลัวว่าหนูจะแพ้ผู้หญิงที่เป็นมือที่สาม คำถามที่อยากถามพี่ๆวันนี้ก็คือ หนูจะทำยังไงต่อไปดี ในเมื่อฝั่งทางแฟนไม่ให้หนูไปไหน...’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ผู้ชายแบบนี้น่ากลัวที่สุด ไอพวกเลิกยาก ต้องหนีเท่านั้น กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ก็โดนตาม แล้วทรงหนูดูใจอ่อนด้วย เขาทำหนูตั้งกี่ครั้งแล้วหนูยังทนได้เลย ฉะนั้นหนูมีทางเดียวคือ บล็อคทุกอย่างแล้วก็หนี หนีไปอยู่กับใครสักคนนึงที่เขาไม่รู้จักแล้วตามไม่ได้ โทรศัพท์ก็เปลี่ยนเบอร์เลย ไม่งั้นชีวิตพ้นน้ำยากมาก อีนี่จะตามอยู่เป็นปีบอกเลย ยกเว้นอีตัวเมียใหม่มันดี แต่คือถ้าเขายังหึงขนาดบีบคอหนูได้ แบบนี้พี่ว่าตามแน่นอน แล้วอีกอย่างนึงก็คือการมีหนูอยู่เขาไม่ได้เสียอะไรเลยนะ เขาสามารถมีคนอื่นก็ได้ ซึ่งผู้หญิงฉลาด ๆ จะไม่ทน ฉะนั้นพี่แนะนำให้หนูไปอยู่กับใครสักพักนึง แล้วก็ค่อยหางานทำ แต่ใจต้องแข็งต้องบล็อก บล็อกทุกอย่างเลย ส่วนพ่อแม่เขาก็ช่าง ไม่ใช่พ่อแม่เรา ไม่ใช่เรื่องที่จะมาให้กูไปทนทุกข์ บ้าหรือเปล่า การที่เราได้ลูกเขาคือการแพ้ ใครได้ผู้ชายแบบนี้เป็นผัวคือแพ้กว่า ห่วงอีมือที่สามเหอะอีนั่นอะซวย’ ต่อมาเป็น “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนีไปที่ ๆ เขาไม่รู้ แต่ว่าเราก็ต้องบอกคุณพ่อคุณแม่ไว้ แล้วหนูก็ลบทุกอย่างที่จะตามได้ โซเชียลทุกอย่างหนูลบไปก่อนให้หายไปก่อน ไปเริ่มชีวิตใหม่ไปหางานใหม่ทำ แล้วก็พี่อยากเสริมว่าอย่าคิดว่าเป็นคู่แท้ อันนี้คือคู่ดันทุรังนะ คู่กรรมคูเวร ที่เหมือนหนูไม่รู้กันสักทีว่าจริง ๆ มึงไม่ควรอยู่ด้วยกันได้แล้ว แต่มึงยังหากลับมาเพื่อวันนี้มาบีบคออีก แล้วบีบครั้งนึงได้แล้วพี่ว่านางทำได้อีกแหละ’ และสุดท้ายเป็น “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘จริง ๆ มันหมดคำถามตั้งแต่บีบคอแล้ว ไม่ต้องฟังอะไรอื่นเลย คืออย่างที่หอมบอกแค่มีชู้มันก็ควรจะเลิกละ แล้วแบบบีบคอกันมันไม่มีอะไรจะต้องฟังต่อแล้ว นอกจากเลิกซะ ไอที่เขาบีบคอเราเนี่ยถ้ามันเลยกว่านั้นอีกสักเท่าไหร่หนูก็คงไม่มีโอกาสโทรมาแล้ว การที่คนเรามันจะทำร้ายคนอื่นได้ มันไม่เหลือความชอบธรรมที่จะอยู่ด้วยกันแล้วแหละ ส่วนคำพูดจากพ่อแม่ พ่อแม่ก็ไม่ต่างจากลูกเขาเลย ตรรกะประหลาดมาก คนที่ได้ลูกเขาไปนั่นแหละคือคนที่พ่ายแพ้ในชีวิตนี้ อย่าคิดว่าไอคนที่เราคบมาตั้งแต่มัธยม จะกี่ปี ๆ ก็เหอะ มันเป็นความคิดที่ผิด คือคนที่คิดแบบนี้โทรมารายการเราเยอะมาก ว่าแบบนี่คือแฟนคนแรก ก็เพราะมันเป็นแฟนคนแรกและหนูยังไม่เห็นคนที่ดีกว่าไง หนูถึงคิดว่านี่คือรักแท้ ถ้าหนูแค่ปิดประตูบ้านออกไปมองซ้ายมองขวาบางคนเดินผ่านไปผ่านมา ไอนี่ก็ดีกว่าผัวหนู ไอนี่ก็ดีกว่าแฟนหนู คนที่ดีกว่าแฟนหนูเยอะแยะไปหมด แต่เขาก้ไปมีคู่ดี ๆ แล้วแหละ ยิ่งหนูเสียเวลากับคนนี้ หนูก็จะไม่มีโอกาสเจอคนดี ๆ เพราะว่าเปิดประตูออกไป อ่อ...คนนั้นก็มีแฟน คนนั้นเขาก็เพิ่งแต่งงาน คนนั้นเขามีครอบครัวที่ดีไปแล้ว สุดท้ายจะเหลือแต่คนไม่ดีให้หนูเลือก เลือกหน่อย แล้วก็ครั้งแรกไม่จำเป็นต้องดีที่สุดลูก แล้วมันน้อยมากเท่าที่พี่เจอมาที่รักครั้งแรกจะเป็นรักครั้งสุดท้าย มันต้องโป๊ะเชะ มันต้องคนดีเจอคนดี ไม่แน่คนดีเจอคนดียังเลิกกันก็มี เพราะมันเจอกันเร็วไป หรือมันคบกันนานไป มันไม่มีความเชื่อมโยงอะไรเลยกับรักครั้งแรก กับคู่ชีวิต ไม่เกี่ยวเลย แล้วก็การที่เขามาบรรจงบีบคอเราสามสเต็ปเนี่ย มันไม่ต้องมีคำถามอะไรอีกแล้ว จริง ๆ จีไม่ต้องโทรมาถามก็ได้ ถ้าจีรักตัวเองมากพอ มันไม่ควรมีใครทั้งนั้นมาบีบคอเรา จงรักตัวเองให้มาก แล้วจีจะรู้ว่าจีต้องทำยังไง มันเป็นสัญชาตญาณการเอาตัวรอด สัญชาตญาณการหนีตายของสิ่งมีชีวิตพื้นฐานเลย เราไม่อยู่กับสิ่งที่เป็นอันตรายกับชีวิตเรา นี่คือพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตไม่นับมนุษย์ด้วยซ้ำ สัตว์เดรัจฉานยังหนีสิ่งที่เป็นภัยต่อชีวิตมันเลย แล้วทำไมมนุษย์เราที่มีมันสมองมีความคิดขนาดนี้ ถึงยอมที่จะอยู่กับคนที่เป็นอันตรายกับชีวิตเราหล่ะ ม้าลายมันยังวิ่งหนีสิงโตเลย รักชีวิตเราให้มากลูกแล้วก็เด็ดขาด ต้นหอมอาจจะคิดว่าเขาจะตามไป แต่ถ้ามันไม่มีหนทางแล้วจริง ๆ อย่างน้อยก็ไปอยู่กับพ่อแม่ให้พ่อแม่คุ้มครองเรา’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

Audio Books

Podcasts

EP23
29 พ.ย. 2023EFM

EP23

ตอนที่ 23 : รู้เท่าทันสื่อ ไม่หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง - ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยบล็อกและเผาผลาญไขมัน ล้างหลอดเลือดอุดตัน กินอิ่มแค่ไหนก็ไม่อ้วน - สบู่ขจัดติ่งเนื้อได้ทุกส่วนของร่างกาย ติ่งเนื้อหลุดหาย รักษาโรคผิวหนังได้หลังใช้เพียงก้อนเดียว - ผลิตภัณฑ์ยาอมสมุนไพรกระชายขาว ช่วยดักจับ ฆ่าเชื้อโรคได้ทุกสายพันธุ์ ป้องกันไวรัสลงปอด

EP73_คุณยายหลังตึก
23 พ.ย. 2023EFM

EP73_คุณยายหลังตึก

ความคิดถึงของคุณยายยังไม่เคยหายไป คุณบัว ได้มาเล่าให้ฟังว่าเมื่อตนได้มาเข้าเวรที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่พอมีอยู่วันนึงก็ได้มีเหตุการณ์แปลก ๆ ทั้งเสียงปริศนาอยู่หลายครั้ง แต่กับเป็นเสียง ที่คุ้นเคย เหตุการณ์นี้จะเป็นยังไงต่อ ก็ไปติดตามฟังเรื่องราวกันได้ใน Ep. นี้

EP22
21 พ.ย. 2023EFM

EP22

ตอนที่ 22 : รู้เท่าทันสื่อ ไม่หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง - ผลิตภัณฑ์สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อโควิด 19 ใช้แล้วป้องกันการติดเชื้อได้ 100% - ผลิตภัณฑ์สมุนไพรช่วยลดเบาหวาน ความดัน ไขมันสูง และไตเสื่อม - ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารช่วยในการฆ่าเซลล์มะเร็ง หยุดการแพร่กระจาย ลดขนาด ก้อนมะเร็ง รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เสริมภูมิคุ้มกันต้านมะเร็งได้ทุกชนิด

EP72_เรื่องตึกร้างหลังกองขยะ
17 พ.ย. 2023EFM

EP72_เรื่องตึกร้างหลังกองขยะ

คุณฟลุ๊ค ได้มาเล่าประสบการณ์ทำงานสุดหลอนให้ฟัง เมื่อเขาได้รับงานพิเศษ แถมได้เงินดีเพิ่มขึ้น 3 เท่า คุณฟลุ๊ค ก็ได้รับปากทำงานนี้ทันที แต่พอเมื่อ คุณฟลุ๊ค ได้เริ่มไปทำงานตามคำสั่งเรื่องราวความน่ากลัวจึงได้เริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์นี้จะเป็นยังไง ไปติดตามฟังเรื่องราวกันได้ใน Ep. นี้

EP21
16 พ.ย. 2023EFM

EP21

ตอนที่ 21 : รู้เท่าทันสื่อ ไม่หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง - ผลิตภัณฑ์สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ป้องกันโควิด ไม่ติดซ้ำรอบ 2 - ยาสีฟัน แก้อาการฟันโยก เหงือกอักเสบ ลดกลิ่นปากได้ตลอดทั้งวัน - ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รักษาอาการปวดหัวเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ รักษาอาการ เส้นเลือดสมองตีบ ฟื้นฟูสภาพร่างกาย

EP71_ของเซ่นที่ลืมให้
09 พ.ย. 2023EFM

EP71_ของเซ่นที่ลืมให้

คุณจอย ได้มาเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเธอได้ไปทำงานที่ต่างประเทศ แล้วก็ได้มูตามเพื่อน แต่หลังจาก คุณจอย ได้เลิกมูไปเรื่องราวความน่ากลัวจึงได้เริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์นี้จะเป็นยังไง ไปติดตามฟังเรื่องราวกันได้ใน Ep.นี้

EP20
06 พ.ย. 2023EFM

EP20

ตอนที่ 20 : รู้เท่าทันสื่อ ไม่หลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริง - ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีท็อกซ์ตับ ฟื้นฟูตับ ชะลอความเสื่อมของตับได้ 99% ขับสารพิษออกจากตับ - ผลิตภัณฑ์ยาน้ำสมุนไพร ยากษัยเส้นบำรุงร่างกาย ช่วยเจริญอาหาร ต้านการอักเสบของข้อ, หลัง และเอว ลดอาการปวดทุกชนิด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรักษาโรคสะเก็ดเงิน ฟื้นฟูผิวหนังที่เสียหาย ให้กลับคืนสู่สภาพดีปกติ

EP70_ทางสามแพร่ง
06 พ.ย. 2023EFM

EP70_ทางสามแพร่ง

เรื่องราวความหลอนนี้ คุณต้น ได้มาเล่าให้ฟังว่า รุ่นพี่ของเขาได้รวมตัวกันไปเที่ยวที่ชายหาดแห่งหนึ่ง และได้ไปเช่าบ้านเพื่อพักผ่อนกัน แต่หลังจากนั้นเรื่องราวความหลอนก็ได้เริ่มต้นขึ้น เหตุการณ์นี้จะเป็นยังไง ไปติดตามฟังเรื่องราวกันได้ใน Ep.นี้

EFM

หนุ่มกระตุกทั้งคืน! เมื่อไปนอนรีสอร์ทใกล้วัด คืนนั้นเห็นคนมาป้วนเปี้ยนที่หน้าห้อง แต่พอลุกไปดู ร่างนั้นก็หายวับไป! ซ้ำยังโดนกระตุกข้อเท้าทั้งคืนจนนอนไม่ได้! ตื่นเช้ามาก็เจอรอยมือปริศนาอีก!!
01 ธ.ค. 2023
อังคารคลุมโปง RECAP

หนุ่มกระตุกทั้งคืน! เมื่อไปนอนรีสอร์ทใกล้วัด คืนนั้นเห็นคนมาป้วนเปี้ยนที่หน้าห้อง แต่พอลุกไปดู ร่างนั้นก็หายวับไป! ซ้ำยังโดนกระตุกข้อเท้าทั้งคืนจนนอนไม่ได้! ตื่นเช้ามาก็เจอรอยมือปริศนาอีก!!

หลอนตั้งแต่ทางเข้า เมื่อเข้าพักในรีสอร์ท แต่กว่าจะเจอต้องผ่านเข้าไปในวัดก่อน! เรื่องหลอนนี้มาจาก ‘คุณโจ’ สายที่โทรเข้ามาในรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (28 พฤศจิกายน 2566) บอกเลยว่าหลอนจน ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ ขนหัวลุก! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น ปิดไฟแล้วไปอ่านกันเลย! เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณปลายเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ตอนนั้นคุณโจจะต้องไปแข่งกีฬาในจังหวัดนครนายก จึงตัดสินใจขับรถไปกับแฟน และจองรีสอร์ทแห่งหนึ่งไว้ พอได้เวลาออกเดินทางก็ตั้งค่า GPS ไปรีสอร์ทนี้ จนประมาณ 6 โมงเย็น บน GPS ก็ขึ้นว่า อีกประมาณ 200 เมตร จะถึงรีสอร์ทให้เลี้ยวซ้าย แต่ในเส้นทางที่ไป รอบ ๆ ข้างนั้น ก็ไม่มีวี่แววที่จะเป็นซอยให้เข้าไปเจอรีสอร์ทได้เลย คุณโจก็ขับไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าเส้นทางนี้ไม่ได้เปลี่ยวอะไรมาก พอถึงจุดที่ต้องเลี้ยวซ้ายก็ต้องทำให้คุณโจแปลกใจ เพราะว่ามันเป็นทางเข้าวัด! ซึ่งมันเป็นเส้นทางร่วม ก่อนจะถึงรีสอร์ทต้องผ่านวัดนี้เข้าไปก่อน คุณโจจึงเลี้ยวเข้าไป เมื่อเลี้ยวเข้าซุ้มประตูวัดไปแล้ว ก็เจอต้นไทรต้นใหญ่ อยู่ด้านหน้า ถัดไปมีโบสถ์ แล้วทางนี้จะต้องค่อย ๆ เลาะขอบข้างทางวัดไป ก็ต้องผ่านโบสถ์ ที่ไว้โกศกระดูกตั้งเรียงรายอยู่ คุณโจก็ลองขับเลาะไป ได้แต่ภาวนาในใจว่ามันอาจจะไม่ใช่ แต่สุดท้ายก็ขับไปเจอรีสอร์ทจริง ๆ รีสอร์ทนี้ตั้งอยู่ด้านหลังวัด เป็นตึกเป็น 2 ชั้น และเป็นบ้านพักทั้งหลังให้เลือก คุณโจเลือกบ้านพักที่เป็นหลัง เพราะว่าสะดวกกว่า หลังจากรับกุญแจเรียบร้อยแล้ว คุณโจก็ขับรถเข้าไปที่บ้านพัก ลักษณะของบ้านหลังนี้คือ เป็นบ้านชั้นเดียว มีที่จอดรถอยู่ด้านหน้า เมื่อลงจากรถก็ไขกุญแจเข้าบ้านได้เลย เวลาจอดรถก็จะบังบ้านจนมิด คนข้างนอกก็จะมองไม่เห็นบ้านเรา เราก็มองไม่เห็นคนข้างนอก และ 3 ด้านของบ้านหลังนี้จะเป็นสไตล์ก่อปูนเปลือย ด้านหน้าจะเป็นกระจกบานใหญ่ใส แล้วก็มีม่าน มีประตูไขเข้าไป ระหว่างที่คุณโจกำลังไขกุญแจเข้าบ้าน คุณโจก็เห็นพวงมาลัยแห้งวางอยู่ 3 - 4 พวง และธูปที่เคยถูกจุดไปแล้ว ด้วยความที่คุณโจกลัวว่าแฟนจะกังวล จึงหยิบทั้งหมดและโยนไปด้านข้างทันที ก่อนที่แฟนจะมาเห็น หลังจากนั้นก็ไขประตูเข้าบ้านไป ลักษณะด้านในของบ้านหลังนี้คือ เป็นบ้าน Studio ห้องน้ำอยู่ด้านใน เข้าไปแล้วจะเจอเตียงด้านซ้ายมือ 2 เตียง ตัวของคุณโจกับแฟนจะนอนคนละเตียงกัน คุณโจเลือกเตียงที่ติดกับริมกระจก ส่วนเตียงของแฟนจะอยู่ใกล้กับห้องน้ำ หลังจากจัดของกันเสร็จแล้ว คุณโจกับแฟนก็ออกไปหาอะไรทานข้างนอก จนคุณโจได้ลืมเรื่องของพวงมาลัยไป ประมาณ 3 - 4 ทุ่ม คุณโจและแฟนก็ได้เตรียมตัวเข้านอน เมื่อปิดม่านและปิดไฟเรียบร้อยแล้ว แต่คุณโจรู้สึกว่ามันมืดเกินไป มืดจนมองอะไรไม่เห็นจึงลุกขึ้นไปเปิดม่านเล็กน้อยเพื่อให้แสงเข้ามาได้ จากนั้นคุณโจก็กลับมาเล่นมือถือต่อ ส่วนแฟนของคุณโจหลับไปเรียบร้อย.. คุณโจเล่นมือถือไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามีคนยืนอยู่นอกบ้าน จึงเหลือบตาไปมองช่องผ้าม่านที่เปิดแง้มเอาไว้ สิ่งที่คุณโจเห็นก็คือเป็นลักษณะเหมือนเงาคน คุณโจจึงพยายามมองให้ชัดว่ามันคืออะไร แต่ว่าภายในห้องนั้นมืดและข้างนอกเองก็มีเพียงแสงเล็กน้อย และได้เห็นเงาที่ว่านั่น เป็นเงาของคน และเป็นผู้หญิงแน่ ๆ เพราะว่า ช่วงผมที่มันฟูๆ จะเห็นได้ว่าเป็นผม ในระหว่างที่คุณโจกำลังพยายามจะมอง เหมือนกับว่าเขาคนนั้นกำลังหันหน้าจากขวาค่อย ๆ มาด้านซ้ายตรงที่คุณโจนอน แล้วมาหยุดตรงกันพอดี! คุณโจรู้สึกได้ว่าเขาชะงักเมื่อเห็นหน้าคุณโจ ตอนนั้นคุณโจไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นนอกกลัวว่าคนนั้นจะเป็นโจรมางัดรถงัดบ้าน จึงรีบพุ่งตัวไปเปิดม่าน แต่จังหวะที่คุณโจพุ่งเข้าไปก่อนจะถึงม่าน เงานั้นก็ขยับตัวไปทางขวา คุณโจก็รีบเปิดม่านจนสุด แต่ปรากฏว่ามันไม่มีอะไรเลย! คุณโจคิดว่ามันเร็วมาก ไม่น่าจะหลบได้เร็วขนาดนั้น ทางด้านแฟนก็รู้สึกตัวตื่นจึงถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า” คุณโจก็ตอบกลับไปว่า “อ๋อ ไม่มีอะไร แค่จะมาดูว่ารถจอดดีไหม” คุณโจไม่กล้าเล่าว่าเจออะไร จึงรีบกลับไปนอนและครั้งนี้ปิดม่านทึบไปเลย สักพักนึงคุณโจก็ผล็อยหลับไป.. คุณโจสะดุ้งตื่นเพราะว่ารู้สึกว่าถูกกระตุกที่ข้อเท้าแรงมากจนหัวตกจากหมอน ตอนนั้นคุณโจก็ยังมึนงงอยู่ และรู้สึกได้ว่าข้อเท้าทั้ง 2 ข้างนั้นเหมือนมีคนกำอยู่ เมื่อเหลือบตาไปมองปลายเท้า คราวนี้ห้องไม่ได้มืดเหมือนครั้งแรก ทำให้คุณโจเห็นว่ามีเงาอยู่ที่ปลายเท้า ซึ่งมือทั้ง 2 ข้างของเงานั้นกำลังกำข้อเท้าของคุณโจอยู่แน่นมาก! คุณโจพยายามจะขยับตัวหรือจะร้องออกมาแต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงลืมตา จึงพยายามเพ่งมองว่ามันคืออะไร ในระหว่างที่คุณโจกำลังเพ่งมอง เงานั้นก็ค่อย ๆ สูงขึ้น แต่ว่ามือที่จับข้อเท้ายังอยู่ที่เดิม จากนั้นก็โน้มตัวเข้ามาข้างหน้า คุณโจเริ่มเห็นชัดเจนแล้วว่าคือผู้หญิงที่เห็นอยู่นอกบ้าน ผู้หญิงคนนั้นค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามา โดยที่คุณโจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้กระทั่งหลับตา ภาพนั้นมันใกล้มาก ๆ จนผมฟู ๆ ของผู้หญิงคนนั้นมาโดนใบหน้าของคุณโจ แต่หน้าของผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เข้ามาใกล้กับหน้าของคุณโจ ในระหว่างที่คุณโจกำลังคิด ก็ได้ยินเสียงพูดจากผู้หญิงคนนี้ว่า “ดูสิ ดูสิ อยากเห็นไม่ใช่หรอ” พูดซ้ำอย่างนี้อยู่ 2 รอบแล้วก็หัวเราะ! คุณโจก็พยายามที่จะสวดมนต์ แต่ด้วยความกลัวในตอนนั้นทำให้คุณโจสวดได้แค่ “นะโมตัสสะ นะโมตัสสะ” วนอยู่แค่นี้ และขณะที่คุณโจพยายามสวด ผู้หญิงคนนั้นก็พูดมาเหมือนกันว่า “มองสิ มองสิ” แต่ ณ ตอนนั้นคุณโจก็หลับตาไม่ได้ เห็นตลอดแต่ว่ามองหน้าผู้หญิงคนนั้นได้ไม่ชัด แต่ยังมีความรู้สึกว่าก้อนผมนั้นยังมาคลอเคลียอยู่ที่หน้าเขาตลอด สักพักความรู้สึกทั้งหมดก็หายไป จึงลุกขึ้นมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรดี ถ้าเปิดไฟก็กลัวว่าแฟนจะตื่น คุณโจจึงพยายามนอนห่มผ้าหดขาดึงผ้าห่มให้ขึ้นมาจนถึงคอและก็หลับไปอีกรอบ.. แต่แล้วเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีกเหมือนเดิม ขาที่คุณโจคิดว่าหดเข้าไปแล้วก็ถูกกระตุกจนหัวตกจากหมอนอีกรอบ ทุกอย่างเหมือนถูกรีรัน ตั้งแต่โดนจับข้อเท้า โน้มตัวเข้ามาแล้วสักพักก็หลุดไป ตัวคุณโจก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการมาแกล้งหรือว่าต้องการมาบอกว่าคุณโจทำอะไรผิด แต่คุณโจก็นึกคิดได้ว่าอาจจะเกี่ยวกับที่คุณโจโยนพวงมาลัยกับธูปทิ้งไป และในรอบ 2 นี้ ทันทีที่คุณโตเริ่มขยับตัวได้ก็รีบเปิดไฟและดูนาฬิกา ปรากฏว่าตอนนี้เป็นเวลา ตี 5 ครึ่ง แฟนของคุณโจพลิกตัวหันมาถามคุณโจว่า “นอนไม่หลับหรอ” คุณโจก็ยังไม่กล้าเล่าให้แฟนฟัง จึงตอบกลับไปว่า “เออใช่ นอนไม่หลับ” แฟนของคุณโจก็หันหลังกลับไป คุณโจตัดสินใจว่าไม่นอนต่อแล้ว จนเวลาเกือบ 6 โมงเช้า คุณโจก็ลุกไปเปิดม่าน แต่ก็ต้องทำให้คุณโตตกใจผงะถอยหลังออกมา เพราะว่าตำแหน่งที่คุณโจเห็นเงาผู้หญิงจากข้างนอกเมื่อคืนนี้ มีรอยมือที่ใหญ่และนิ้ว 4 นิ้วที่เรียวยาวมาก คุณโจก็ตัดสินใจเล่าให้แฟนฟัง หลังจากที่แฟนได้ฟังแล้ว แฟนก็เล่าในมุมมองของตัวเองบ้างว่า “นอนไม่หลับเหมือนกัน รู้สึกเหมือนมีแมลงหรือยุงมาไต่หน้าไต่แขน” หลังจากคุณโจได้ฟังก็คิดว่าว่าไม่น่าจะใช่ยุง จึงถามแฟนไปว่า “มันเหมือนผมหรือเปล่า ที่มันมาไรโดนหน้า” แฟนก็บอกว่า “ไม่รู้ แต่รู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องนี้ รู้สึกเหมือนมีคนมาชะโงก แต่ว่าไม่กล้าลืมตา อาจจะเป็นผมก็ได้” ตัวแฟนก็ไม่กล้าพลิกตัวเพราะว่ากลัวคุณโจจะตื่น หลังจากคุยกันเสร็จ คุณโจก็ตัดสินใจเปิดประตูออกไปเพื่อที่จะไปดูรอยมือนั้นเพื่อหาเหตุผลว่ามันคือรอยอะไร พอเปิดประตูออกไป ตำแหน่งที่มีรอยมือนั้น ต้องเป็นคนที่สูงประมาณ 180 – 190 เซนติเมตร มือถึงจะอยู่ระดับนั้นได้ เพราะว่าพื้นห้องพักจะสูงกว่าลานจอดรถ ซึ่งรอยมือนี้เหมือนเป็นรอยมือจากไอร้อนอยู่ด้านนอก แล้วเป็นนิ้วที่ดูน่ากลัวมาก คุณโตก็คิดว่าอยู่อีกคืนไม่ได้แล้ว จะต้องย้ายที่พัก หลังจากนั้นคุณโตก็ไปแข่งกีฬา และไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ถามว่า “ไปนอนที่นี่ใช่ไหม” คุณโจจึงบอกว่า “ใช่” เพื่อนคุณโจจึงบอกว่า “โห ส่วนใหญ่แล้ว นักกีฬาที่ไปพักที่นี่หรือคนที่ไปพักที่นี่ ก็จะมีประสบการณ์แบบนี้หมด” ในระหว่างที่คุณโจและเพื่อนกำลังคุยกันอยู่นักกีฬาอีกกลุ่มหนึ่งที่นอนบนตึกก็มาบ่นกันว่า “นอนไม่หลับ” คุณโจจึงเข้าไปถามว่าทำไมนอนไม่หลับ สรุปแล้วหลายคนก็เจอคล้ายกันกับคุณโจ แต่เขาไม่ได้เล่าละเอียด เล่ามาแค่ว่า “เขาโดนกวน นอนกันไม่ได้” เพื่อนก็บอกว่า “ก็เป็นไปได้ว่าถ้ามาที่นี่ก็มีโอกาสที่จะเจอ” แต่คุณโจก็ไม่ได้ไปถามผู้ดูแลต่อ เพราะว่าถ้าถามไปเขาก็คงไม่เล่าให้ฟัง จึงคิดเองว่า ที่พักนี้อยู่ใกล้กับวัด ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่รอบ ๆ นี้ แต่สุดท้ายแล้วคุณโจก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่คุณโจเจอเกี่ยวอะไรกับห้องที่เขาพักหรือเปล่า..(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

เป็นจุดต่ำสุดของครอบครัว เพราะแม่เชื่อหมอดู ทำตามที่หมอดูบอกทุกอย่าง ถึงขั้นให้พ่อเลี้ยง...กับลูกแท้ๆ ! สุดท้ายแม่กลายเป็นคนวิกลจริต เพราะลูกทำคุณไสยตอบแทน!
01 ธ.ค. 2023
อังคารคลุมโปง RECAP

เป็นจุดต่ำสุดของครอบครัว เพราะแม่เชื่อหมอดู ทำตามที่หมอดูบอกทุกอย่าง ถึงขั้นให้พ่อเลี้ยง...กับลูกแท้ๆ ! สุดท้ายแม่กลายเป็นคนวิกลจริต เพราะลูกทำคุณไสยตอบแทน!

(Trigger Warnings : บทความนี้มีเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศ) เมื่อเราเป็นจุดต่ำสุดในครอบครัว แม่หลงเชื่อหมอดูจนโงหัวไม่ขึ้น ให้พ่อเลี้ยงมาข่มขืนลูกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นตามที่หมอดูบอก สุดท้ายจึงตอบแทนแม่ด้วยคุณไสยสุดพิเศษเป็นของขวัญ เรื่องนี้ ‘คุณณัฐผี’ ได้นำมาเล่าให้แฟนรายการ ‘อังคารคลุมโปง X’ (28 พฤศจิกายน 2566) ฟังพร้อมกับ ‘ดีเจแนน’ และ ‘ดีเจเจ็ม’ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ตอบแทนด้วยคุณไสย’ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันได้เลย! คุณณัฐเล่าว่าเรื่องนี้ได้ฟังมาจาก ‘น้องบุ๋มร่างทรง’ เธอเป็นคนดูดวง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของลูกดวง ใช้นามสมมติว่า ‘น้องเดียร์’ เธออยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์และเป็นวิทยาทานให้กับคนที่กำลังจะเชื่ออะไรแล้วไม่ได้ไตร่ตรอง ควรที่จะเชื่อแบบมีสติ และเรื่องนี้ฝากไปถึงคนที่มีลูก อยากให้รักลูกแบบไม่ลำเอียงให้รักลูกเท่ากันทุกคน เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวของน้องเดียร์ มีแม่, พ่อเลี้ยง, น้องเดียร์, และน้องชาย แม่เป็นคนติดแอลกอฮอล์ ติดการพนัน โดยเฉพาะเรื่องการดูดวง แม่ชื่นชอบและติดมาก แม่จะเชื่อหมอดูอย่างไม่ลังเล ถ้าให้เรียงลำดับความสำคัญของคนในครอบครัวนี้ ตัวน้องเดียร์คิดว่าตนนั้นไม่สามารถที่จะอยู่ในอันดับด้วยซ้ำ เพราะน้องเดียร์ไม่เคยอยู่ในสายตาแม่เลย น้องเดียร์เกิดมาจากพ่อที่ทิ้งแม่ไป เธอเปรียบเสมือนกาฝากในครอบครัวนี้ ต้องเชื่อฟังแม่ตั้งแต่เด็ก ทำผิดอะไรแม่ก็จะตี หรือบางทีก็ถูกแม่ขังอยู่ในห้องไม่ให้ไปเรียน เวลาจะได้ของอะไรก็แล้วแต่ จะต้องเป็นของเหลือที่น้องชายไม่เอา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ถ้าน้องชายเลือกที่จะไม่กิน น้องเดียร์ถึงจะได้กิน ภาพจำที่น้องเดียร์จำได้คือ พ่อเลี้ยง แม่ และน้องชายนอนอยู่ในห้องเดียวกัน ไปกินอาหารด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ส่วนน้องเดียร์ต้องอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด และอีกภาพคือ แม่ขอเงินยายเพื่อที่จะไปซื้อเหล้าและไปเล่นการพนันอยู่บ่อย ๆ หรือแม้กระทั่งบังคับยายยกสมบัติให้เพื่อที่แม่จะได้นำไปขาย แล้วเอาเงินมาเล่นการพนัน เอามาซื้อเหล้า พอหนักเข้า ยายไม่มี ยายก็ถูกแม่ตีจนแขนหัก จนยายต้องออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่น ด้วยความที่แม่เป็นคนที่เชื่อเรื่องดวงมาก ๆ ก็จะไปเสาะแสวงหาการดูดวงจากสถานที่ต่าง ๆ ถ้าหมอไหนที่ดูแล้วบอกว่าลูกชายพึ่งได้ แม่ก็จะบอกว่าหมอคนนี้แม่นถูกใจแม่ กลับกันถ้าหมอดูบอกว่าลูกสาวจะพึ่งได้ นั่นแสดงว่าหมอดูไม่แม่น และจะถูกแม่ด่าอยู่ตลอดเวลา อย่างที่บอกไปว่าแม่ชอบดูดวงมาก กระทั่งแม่ไปเจอหมอดูคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนเทวดาในหัวใจแม่ แต่เป็นซาตานที่มาจากนรกสำหรับน้องเดียร์ ขั้นตอนการดูดวงกับหมอคนนี้คือการเอาดวงของพ่อน้องเดียร์, น้องเดียร์, และน้องชายไปดู หมอดูบอกว่าพ่อของน้องเดียร์อยู่ด้วยกันกับแม่ก็มีแต่จะเลิกกัน มีแต่สิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิต ดวงของพ่อน้องเดียร์เป็นด้วยตายโหง แม่ต้องอยู่เป็นหม้าย ดีแล้วที่เลิกกันไป ส่วนดวงของน้องเดียร์นั้น หมอดูบอกว่าเมื่ออดีตชาติน้องเดียร์เคยเกิดเป็นผู้ชาย เป็นโจรมาปล้นบ้านของแม่ และก็ฆ่าสามีในอดีตชาติของแม่ตาย พอมาชาตินี้น้องเดียร์ต้องมาเกิดเป็นลูกเพื่อมาชดใช้กรรมในอดีตที่ทำไว้ ส่วนลูกชายย้อนกลับไปในอดีตชาติเคยเป็นคู่รักของแม่ และก็เป็นคนที่อยู่ในตระกูลสูงส่งมีหน้ามีตา เป็นคนที่ฉุดแม่ขึ้นมาให้มีชื่อเสียง ให้กลับมามีหน้ามีตาในสังคมอีกครั้ง และยังบอกอีกว่าว่าในยุคปัจจุบันนี้ให้เลี้ยงลูกชายให้ดี ต้องตอบแทนบุญคุณเขาแล้ววันหนึ่งเมื่อลูกชายโตขึ้นเขาจะร่ำรวย หลังจากนั้นน้องเดียร์ก็บอกคุณบุ๋มว่า “พี่บุ๋มจำได้มั้ย ที่เดียร์เคยโทรมาปรึกษาพี่บุ๋มว่าสิ่งที่มันเกิดคืออะไร” คุณบุ๋มก็ได้เตือนน้องเดียร์ไปว่า “ถ้าสมมติว่าวันนึงน้องเดียร์มีชีวิตที่ดีแล้ว อย่าอาฆาตแม่ ให้อโหสิกรรมกับแม่ อย่าไปตามจองเวรจองกรรมซึ่งกันและกันอีก” น้องเดียร์ก็ถามคุณบุ๋มอีกว่า “พี่บุ๋มเห็นอะไรในตัวหนูมั้ย?” คุณบุ๋มตอบมาว่า “เห็นเด็ก” น้องเดียร์จึงบอกว่า “เดี๋ยวจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง” เรื่องนี้เกิดเมื่อตอนที่น้องเดียร์อายุ 15 ปี แม่ไปดูหมอดูคนเดิม หมอดูก็ย้ำเรื่องเดิมที่น้องเดียร์เป็นลูกที่เคยมาปล้นบ้านและฆ่าสามีแม่ในอดีตชาติ พอแม่รู้เรื่องนี้ น้องเดียร์ก็โดนด่าหนักว่าเดิม กลับกันพอเป็นน้องชาย แม่กลับโอ๋น้องตลอดเวลา จนเข้าอายุ 16 ปี น้องเดียร์เริ่มโตเป็นสาว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พ่อเลี้ยงเริ่มมองน้องเดียร์ด้วยสายตาที่คุกคาม เวลาแม่ไม่อยู่ จะชอบเรียกมาจับมือ มาโอบ มาลวนลาม น้องเดียร์ทนไม่ได้ จึงนำเรื่องนี้ไปคุยกับแม่ แต่แม่ตอบกลับมาว่า “มึงสมควรโดนแบบนี้แล้วแหละ” น้องเดียร์จุกในอกไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องก้มหน้ารับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แล้วแม่น้องเดียร์กลับร้อนใจที่คู่ชีวิตในปัจจุบันลวนลามลูก จึงไปหาหมอดูและถามว่า “ถ้าสามีฉันไปมีอะไรกับลูก จะติดใจลูกมั้ย?” หมอดูตอบกลับมาว่า “พ่อมันทำถูกต้องแล้ว” และอธิบายต่อว่า มันต้องทำแบบนี้เพื่อตัดกรรมเก่าที่น้องเดียร์เคยกระทำในชาติที่แล้ว ถ้าทำแบบนี้ชีวิตแม่จะดีขึ้นจะมีเงินทองเข้ามา ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายไป นอกจากนี้หมอดูยังย้ำว่าให้หาคนที่ดวงแข็งกว่าพ่อและน้องเดียร์มากระทำชำเราน้องเดียร์เพิ่มอีก ซึ่งหมอดูก็เสนอตัวเอง แม่ถามหมอดูต่อว่า “ถ้าผัวฉันได้กับเดียร์แล้ว จะติดใจเดียร์มั้ย?” เพราะแม่ก็กลัวว่าผัวตัวเองจะติดใจลูกและทิ้งตัวเอง หมอดูบอกว่า “ไม่ต้องกลัวให้ทำตามนี้ พอทำเสร็จแล้วให้มาหาเดี๋ยวจะทำเสน่ห์ให้ ขอแค่พาน้องเดียร์มาหา” หลังจากที่แม่กลับบ้านก็ไปเรียกเดียร์มาคุย เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ว่าหมอดูพูดอะไรบ้าง แล้วกำชับว่า “มึงจะต้องทำตามที่หมอดูบอก” ด้วยความที่น้องเดียร์ยังเป็นเด็กก็กราบขอร้องอ้อนวอนแม่ แต่แม่กลับบอกว่า “ยังไงมึงก็ต้องทำ” กาลเวลาผ่านไป น้องเดียร์ก็คิดว่าเรื่องนี้คงจะจบไปแล้ว พ่อกับแม่คงลืม จึงลดความระวังตัวลง แต่ก่อนที่พายุจะมา ทะเลมันจะสงบ น้องเดียร์บอกว่ามีอยู่วันหนึ่ง เธอป่วยเป็นไข้ นอนซมอยู่บ้านไม่มีแรง วันนั้นพ่อเลี้ยงเข้ามาข่มขืนน้องเดียร์ และที่สำคัญคือแม่แท้ ๆ ของตัวเอง ยืนดูพ่อเลี้ยงข่มขืนลูกตัวเองอยู่ด้วย น้องเดียร์พยายามที่จะสู้ พยายามที่จะขัดขืน แต่ก็ไม่มีแรงเพราะป่วย ประกอบกับด้วยเป็นแรงผู้ชาย พ่อเลี้ยงจึงกระทำจนสำเร็จ จากนั้นแม่ก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “กูบอกมึงดี ๆ แล้ว มึงไม่ยอมทำ เพราะฉะนั้นมึงต้องโดนแบบนี้” และทั้งสองคนก็เดินออกไปนั่งกินเหล้าคุยกันอย่างมีความสุข ปล่อยให้น้องเดียร์นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว.. ในตอนนั้นเอง น้องเดียร์รู้สึกหมดสิ้นทุกอย่างแต่ก็ต้องกัดฟันสู้ คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นแม่จะต้องพาไปหาหมอดูเป็นแน่ จึงตัดสินใจออกจากบ้านไปหายาย ซึ่งบ้านยายที่ย้ายไปก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านน้องเดียร์ พอไปถึงน้องเดียร์ก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ยายฟัง ยายร้องไห้และขอโทษน้องเดียร์ที่ไม่สามารถช่วยน้องเดียร์ได้ แต่ถ้าน้องเดียร์มาอยู่บ้านยายยังไงแม่ก็ต้องมาตามอยู่ดี ยายจึงส่งน้องเดียร์ไปอยู่กับน้องสาวยายที่ใต้ ยายบอกว่ายายส่งน้องเดียร์ไปที่ใต้ได้ แต่ยายไม่มีเงินส่งเรียนได้เมื่อไปถึง น้องสาวยายเอ็นดูน้องเดียร์จึงส่งเสียให้ได้เรียน น้องเดียร์บอกว่าตอนที่ไปอยู่ที่นั่น เหมือนได้รับรู้คำว่า ความรัก ความอบอุ่นของครอบครัว และการมีสังคม มันเป็นอย่างไร หลังจากอยู่ใต้ประมาณ 4 เดือน น้องเดียร์ก็ได้รับรู้ว่าตัวเองท้อง จึงเล่าให้น้องคุณยายฟังว่าถูกพ่อเลี้ยงทำอะไร และบอกว่าอยากเอาเด็กออก เพราะยังไม่พร้อมและอยากมีอนาคตที่ดี คุณยายจึงพาน้องเดียร์ไปหาหมอ พร้อมบอกถึงสาเหตุของการตั้งครรภ์ พอหมอรู้สาเหตุว่าโดนข่มขืน หมอจึงตรวจโรคเพิ่มเติม ผลออกมาว่าน้องเดียร์ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง และมีผลกับเด็กในท้องจึงยุติการตั้งครรภ์ในที่สุด หลังจากนั้น น้องเดียร์ก็มีแฟน ซึ่งเป็นแฟนคนแรกในชีวิต น้องเดียร์รักผู้ชายคนนี้มาก แต่ก็รู้สึกว่าอยากบอกเรื่องราวในชีวิตทั้งหมดให้เขาได้รู้ จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นไป พอผู้ชายคนนี้ฟังจบก็รู้สึกโมโหเป็นเดือดเป็นร้อนแทนน้องเดียร์ แล้วถามน้องเดียร์ว่า “อยากแก้แค้นมั้ย?” น้องเดียร์จึงตอบว่า “อยาก” หลังจากนั้นสองอาทิตย์ แฟนน้องเดียร์ก็พาไปสถานที่หนึ่ง มีหลายคนมานั่งรอเพื่อพบอาจารย์ท่านนี้ บางคนก็มาทำเสน่ห์ บางคนก็มาสัก พอถึงคิวน้องเดียร์ น้องเดียร์รู้สึกว่าเหมือนเขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นอย่างไร จากนั้น อาจารย์ก็หันมาถามว่า “มึงแน่ใจแล้วนะ ที่มึงจะทำแบบนี้ อีนั่นก็แม่มึงนะ แต่ส่วนพ่อเลี้ยงมึงกูไม่สนใจอยู่แล้ว” เดียร์ตอบไปว่า “หนูมั่นใจแล้ว หนูคิดมาดีแล้ว” จากนั้น อาจารย์ก็ทำของใส่ให้ โดยวิธีการทำของก็คือ อาจารย์ขอวันเดือนปีเกิด ปีนักษัตรของแม่และพ่อเลี้ยงไป เดียร์จำของแม่ได้แต่จำของพ่อเลี้ยงไม่ได้ แต่หมอดูก็บอกว่า “ไม่เป็นไรเอาเท่านี้พอ เดี๋ยวจะส่งผีที่เลี้ยงไว้ไปจัดการ” วิธีการก็คือให้เขียนชื่อ แล้วเอาชื่อไปฝังอยู่ที่ทางสามแพร่ง เอาไปอยู่ใต้พระอกแตก แล้วก็เอาไปทิ้งในท่อน้ำทิ้ง น้องเดียร์ขอไม่บอกขั้นตอนในการทำให้ชัดเจน รวมถึงว่าต้องจ่ายด้วยอะไร.. สิ่งที่เกิดขึ้นสามเดือนต่อจากนั้นคือ น้องเดียร์ได้รู้ข่าวจากยายว่าพ่อเลี้ยงโดนแทงในบ่อน ส่วนแม่น่าจะเครียดเรื่องพ่อ สติไม่ดีและหวาดกลัวตลอดเวลา ที่สำคัญคือแม่เดินแก้ผ้าเอามือล้วงอวัยวะเพศแล้วเอามาเลียเหมือนคนวิกลจริต ยายคิดว่าเป็นผลกรรมที่พ่อเลี้ยงและแม่ทำกับน้องเดียร์ แต่ถึงอย่างนั้น น้องเดียร์บอกว่า ถึงจะได้แก้แค้นสำเร็จ แต่ลึก ๆ แล้ว ผลกรรมที่ทำกับแม่ตัวเองจะตามมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่เดียร์ก็พร้อมที่จะรับกรรมนั้น(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)รับฟังเรื่องเต็ม ๆ ได้ที่

ไบร์ท นรภัทร ยอมรับว่า โบกี้ เฌอริสา เป็นสาวคนสนิท เข้าใจหากมีความรักจะทำให้ความนิยมลดน้อยลง
01 ธ.ค. 2023
ENTERTAINMENT NEWS

ไบร์ท นรภัทร ยอมรับว่า โบกี้ เฌอริสา เป็นสาวคนสนิท เข้าใจหากมีความรักจะทำให้ความนิยมลดน้อยลง

เพราะว่าแฟนคลับคือคนสำคัญ เลยทำให้นักแสดงหนุ่มอย่าง ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์ กล้าที่จะเปิดเผยเรื่องต่าง ๆ ให้ได้ทราบ เพื่อเป็นการให้เกียรติความรักและการสนับสนุนของแฟน ๆ โดยเฉพาะเรื่องหัวใจที่ไม่ว่าจะโสดหรือเปิดโหมดอินเลิฟ เขาก็เลือกที่จะบอกกับแฟน ๆ อย่างตรงไปตรงมาเหมือนอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ล่าสุด ไบร์ท ถูกจับตามองเรื่องความสัมพันธ์อีกครั้ง หลังจากที่มีคนพยายามเปรียบเทียบภาพไลฟ์สไตล์ของเขาว่า มีความเชื่อมโยงกับสาวเวทีมิสแกรนด์คนหนึ่ง และตั้งคำถามว่าทั้งคู่กำลังสานสัมพันธ์กันอยู่หรือเปล่า ก่อนที่ ไบร์ท จะออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมยอมรับว่า สาวที่ว่าคือ โบกี้-เฌอริสา ธนะ มิสแกรนด์ปัตตานี 2022 ส่วนความสัมพันธ์ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นของการศึกษาดูใจกัน“ไปด้วยกันจริง ๆ ครับ เขาหวงเราเราก็เข้าใจได้ แต่ว่าอย่างที่เคยบอกไปคือมันคนละโลกกัน โลกของการทำงานกับโลกที่เป็นชีวิตส่วนตัว ปล่อยผมไปเรียนรู้ชีวิตก่อนครับ ผมเพิ่ง 25 ปีขอไปเรียนรู้ก่อน“จริง ๆ เรารู้จักกันมานานมากนะครับ แต่เขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาก่อน (หัวเราะ) จริง ๆ ก็คุยกันแหละครับ เห็นแฟน ๆ หวงแล้วก็น่ารักดีครับ ผมชอบนะครับเวลาอยู่ด้วยกันแล้วสนุกดี เพราะผมไม่ได้ชอบความสัมพันธ์ที่มันตึงเครียด สบาย ๆ ผมดูแลตัวเองได้ เขาก็ดูแลตัวเองได้“ผมมีแจ้งเขาตั้งแต่แรกเลยนะครับว่า มันอาจจะมีแบบนี้นะ ถึงเวลามันอาจจะไม่มีก็ได้ แต่อาจจะมีแบบนี้ เขาก็บอกว่าเขาอยู่ได้ เพราะโดยปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่จะมาเสพข่าวอะไรแบบนี้อยู่แล้ว”นอกจากนี้ ไบร์ท ยังตอบถึงข้อกังวลของแฟน ๆ ว่า การเปิดตัวคบสาวคนใหม่แบบนี้ จะส่งผลกระทบกับการทำงาน ทำให้เรตติ้งตกหรือเปล่านั้น ไบร์ท บอกว่าไม่กังวล เพราะยังมั่นใจว่าเป็นคนจริงใจ คิดยังไง เป็นยังไง ก็บอกตรง ๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบก็คงต้องแล้วแต่แอดติจูด แต่คนที่ยังอยู่ก็ขอบคุณ ยืนยันว่ายังคงเป็นในแบบที่เคยเป็นและเคยบอกกับแฟน ๆ เอาไว้ตั้งแต่แรกว่า ไม่อยากโกหกและอยากให้เกียรติกับแฟน ๆ ทุกคนภาพ : brightnorr

Green Wave

ทำความรู้จัก “นุ่น - น้อยหนึ่ง” คู่รักนักสร้างมีม ที่ช็อตฟีลกันแบบสุด แล้วหยุดที่ไวรัล
01 ธ.ค. 2023
Club Pride Day Recap

ทำความรู้จัก “นุ่น - น้อยหนึ่ง” คู่รักนักสร้างมีม ที่ช็อตฟีลกันแบบสุด แล้วหยุดที่ไวรัล

เป็น Club ที่คอยเติมสีสัน แบ่งปันแรงบันดาลใจ ในทุก ๆ สัปดาห์ กับ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride ทอล์คกระทบไหล่กับตัวแม่ กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้เปิดไมค์ต้อนรับแขกรับเชิญสุดพิเศษ “น้อยหนึ่ง-นุ่น” คู่รักนักช็อตฟีล เจ้าของมีมสุดไวรัลในโซเชียล ที่จับมือกันมาเล่าเรื่องราวสีสันของชีวิต พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจดี ๆ ในรายการด้วยย้อนวันวาน ของ “น้อยหนึ่ง”น้อยหนึ่ง : “น้อยหนึ่งเรียนจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจริง ๆ แล้วความฝันของเราคืออยากเป็นครู และหลังจากเรียนจบ เราได้ไปเป็นอาจารย์พิเศษก่อน 2 ปี เราชอบสอน ชอบสื่อสาร จากนั้นก็ได้ไปเรียนต่อปริญญาโท คณะครุศาสตร์ศิลปศึกษา ระหว่างเรียนก็ทำงานไปด้วย ปรากฏว่าพอทำงานได้เงิน ก็ตัดสินใจเลิกเรียนเลย ทั้ง ๆ ที่การเรียนปริญญาโทเหลือแค่เอาวิทยานิพนธ์ไปทดลองก็จะเรียนจบแล้ว แต่เราเลือกที่จะออกมาทำงาน แต่งานที่เราทำอยู่มันก็เหมือนกึ่ง ๆ เป็นครูด้วย เพราะมีการสอนบ้างบางครั้งพอมาทำงาน เราก็ได้เอาความรู้จากตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาปรับใช้ เช่น ตอนที่เราคิดงาน ก็จะใช้หลักการของสถาปนิก หรือว่าหลักการของนักออกแบบ มาใช้ในการคิดโจทย์ต่าง ๆ หรือเวลามีลูกค้าเข้ามา เราก็พยายามคิด และแปลงโจทย์ออกมาเป็น Presentation เพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่สุด มันกลายเป็นความรู้สึกดีใจ ที่เรายังสามารถเอาทักษะจากการเรียนมาใช้ในการทำงานได้ด้วยส่วนที่มาของงานแต่งหน้า มาจากที่เราชอบศิลปะ ชอบวาดรูป แล้วเราได้มีโอกาสทำบอดี้เพนท์ ซึ่งมันเหมือนกับการวาดรูปการ์ตูนบนใบหน้า พอได้ทำก็รู้สึกว่าสนุกดี พอเรามีผลงานก็เอาไปลงในเว็บบอร์ด จากนั้นก็มีคนเข้ามาดูผลงาน แล้วก็จะมีคนคอมเมนต์ถามมาว่าส่วนนี้ทำอย่างไร แล้วเราก็ต้องไปอธิบายว่าเราทำอย่างไร ท้ายที่สุดเลยตัดสินใจว่า ถ้าอย่างนั้นเราสอนเลยดีกว่า ก็สอนแต่งหน้าเลย สอนแต่งเป็นผี แต่งแฟนซี ซึ่งสอนมาประมาณ 10 ปี ตั้งแต่เริ่มทำบล็อกเกอร์มา”ย้อนวันวาน ของ “นุ่น”นุ่น : “นุ่นเรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตั้งแต่เรียนจบก็เป็นพนักงานออฟฟิศมาตลอด เพิ่งจะออกมาทำยูทูบเบอร์กับน้อยหนึ่งได้ 2 ปี ซึ่งจริง ๆ เราเรียนจบ บรรณารักษศาสตร์ ซึ่งไม่ตรงกับงานที่ทำด้วยซ้ำ เพราะทำงานเกี่ยวกับสายนำเข้าส่งออกพัสดุ ซึ่งเราทำงานในส่วนของการดูแลลูกค้า แล้วก็ย้ายไปทำเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค แล้วก็กระโดดเปลี่ยนสายอีกครั้ง ไปทำงานเอเจนซี่โฆษณา ทำได้ประมาณ 1 ปี แล้วน้อยหนึ่งก็ชวนให้ออกมาทำยูทูบเบอร์ด้วยกันไหม เพราะระหว่างที่เป็นพนักงานออฟฟิศ เราก็ทำช่องมาแล้วสักพัก มันก็เริ่มโตขึ้น ๆ แล้วเราก็เริ่มเห็นว่ามันเริ่มมีโอกาสที่จะโตได้มากกว่านี้ ถ้าเราออกมาทำจริงจังก็น่าจะดี ในระหว่างตัดสินใจก็โลเลเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ น้อยหนึ่ง ช่วยซัพพอร์ท เค้าบอกว่าออกมาลองดูสักตั้งก่อนก็ได้ ซึ่งเราก็คิดไว้แล้วว่า ถ้าสมมติมันไม่รุ่ง ก็จะกลับไปเป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนเดิมเรื่องความกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone เรามองว่า มันก็ไม่แปลกถ้าบางคนจะยังติดอยู่ใน Comfort Zone ส่วนตัวนุ่นเอง เราเป็นคนที่ชอบกระโดดไปเรื่อย ๆ มันสนุกกว่า เพราะสิ่งที่มันได้กลับมาคือความตื่นเต้น ถ้าสมมติว่าเราประสบความสำเร็จ เราจะรู้สึกว่ามีพลัง และมีกำลังพอที่จะก้าวต่อไป และถ้าจะให้แนะนำก็คิดว่าควรเริ่มจาก Comfort Zone เล็ก ๆ ก่อนดีกว่า อย่างตอนที่นุ่นลองทำช่องก่อน โดยที่ยังเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่ มันเหมือนเป็นการกระโดดไปชิมลางก่อน ถ้ามันทำได้ เราก็เต็มที่ 100% กับตรงนี้เลย แล้วเมื่อมันประสบความสำเร็จแล้ว เราก็สามารถที่จะไปทำอย่างอื่นต่อได้”จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ ของ “น้อยหนึ่ง-นุ่น”น้อยหนึ่ง : “จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกันคือ จากการที่เราไปโพสต์โปรไฟล์ไว้ในเว็บบอร์ด แล้วก็ได้มีโอกาสแอด msn คุยกัน คุยหมดเลยทุกเรื่อง แล้วเราคุยกับเค้า แต่จำชื่อเค้าไม่ได้ด้วยนะ พอวันที่มาเจอหน้ากัน คุยไปคุยมาจึงรู้สึกว่า คนนี้มีอะไรพิเศษ แล้วด้วยความที่บ้านใกล้กัน แล้วตอนนั้นเราหิวข้าวแต่ไม่อยากกินข้าวคนเดียว ซึ่งเค้าก็อยู่แถวนั้นพอดี ก็เลยชวนมาเจอกัน หลังจากนั้นก็คุยกันประมาณ 3-4 เดือนได้”นุ่น : “คุยกันใน msn ตอนแรกเรายังไม่เห็นหน้าเค้า เพราะเค้าไม่ได้โชว์รูป ตอนนั้น น้อยหนึ่ง อยู่ ม.6 นุ่น อยู่ ปี 3 แต่พอได้คุยกันรู้สึกถูกคอ นุ่นก็ขอเค้าเป็นแฟน ด้วยความที่เค้าเป็นคนที่มีความคิดแปลก ๆ ซึ่งแปลกในที่นี้คือ เค้าชอบคิดเรื่องนิยาย คิดเรื่องผี แล้วพอเค้าคิดอะไรได้ในหัว เค้าก็มาเล่าให้เราฟังหมด และด้วยความที่นุ่นเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เค้าเป็นคนพูดเก่ง เราก็รู้สึกว่า แม้เรื่องที่เล่ามันค่อนข้างที่จะส่วนตัวสำหรับเค้า แต่เค้าก็กล้าที่จะมาเล่าให้เราฟัง ตอนนั้นมันเลยรู้สึกว่า เค้าคิดอะไรกับเรารึเปล่านะ เหมือนว่าเราโทรศัพท์คุยกันทุกวัน แต่เค้ามีเรื่องมาเล่าให้เราฟังได้ทุกวัน มันก็เพลินเหมือนกัน”“ผัวน้อย” ชื่อช่องนี้ ได้แต่ใดมานุ่น : “ตอนที่จะตั้งชื่อช่อง ก็ถาม น้อยหนึ่ง ว่าจะตั้งชื่อช่องยังไงดี ให้มันนำเสนอความเป็นตัวเรา แล้วก็เป็นตัวเค้าด้วย เพราะว่าเป็นช่องที่เราทำกันสองคน น้อยหนึ่งบอกว่าก็เป็น ผัวน้อย ก็ได้ เรียกแทนตัวเองว่าเป็นผัวน้อยของคนอื่นด้วย แล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็เป็นผัวของน้อยหนึ่งด้วย”น้อยหนึ่ง : “จริง ๆ ชื่อ น้อยหนึ่ง นุ่น ก็เป็นคนตั้งให้นะ เพราะปกติชื่อหนึ่งเฉย ๆ แล้วตอนนั้นอยากได้ชื่อ เพื่อเอาไปตั้งเป็นชื่อเฟสบุ๊ค เราอยากได้ชื่อที่มันอ่านแล้วรู้สึกไร้กาลเวลา และดูเด็กอยู่ตลอด”นุ่น : “ชื่อ น้อยหนึ่ง ตอนแรกที่เมมเบอร์โทรศัพท์ ด้วยความที่เรามีเพื่อนชื่อหนึ่งหลายคน พอเค้าเป็นแฟน ถ้าจะเมมว่าหนึ่งเฉย ๆ มันก็ไม่แตกแต่ง เราก็เลยเติมเป็น น้อยหนึ่ง จะได้ดูแบบน่ารักกุ๊กกิ๊ก”เป็นแฟนกัน ทำงานด้วยกัน ทะเลาะกันไหม ?น้อยหนึ่ง : “ก็มีตีกันบ้าง แต่มันเป็นการตีกันเรื่องงาน พอจบงานแล้วก็คุยกันเลย แล้วเราก็มีกฎคือ เราไม่ทะเลาะกันเกิน 1 วัน เป็นกฎที่ตกลงตั้งแต่แรกตอนคบกัน เพราะว่าเราเคยทะเลาะกันเกิน 1 วันแล้ว สุดท้ายเราก็ต้องมาคุยกันอยู่ดี มันรู้สึกว่าเสียเวลา เราคุยกันเลยดีกว่า บังคับตัวเองหน่อย เอาอีโก้ออกก่อน เพราะถ้านอนไปทั้ง ๆ ที่ใจมันขุ่นมัว พรุ่งนี้มันก็จะขุ่นมัว ก็เลยตั้งกฎเอาไว้เลยว่า เวลาทะเลาะกันเรื่องอะไร จะเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ 1 วันต้องเคลียร์ให้จบ”นุ่น : “ที่น้อยหนึ่งพูดว่า 1 วันต้องให้จบ บางทีมันอาจจะไม่ได้จบ แต่ความหมายจริง ๆ คือ ถ้าทะเลาะกันไม่ควรจะเงียบ ต้องคุยก่อน บางที 1วัน มันอาจจะแก้ปัญหาไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยเราเริ่มคุยกันก่อนว่าเธอโกรธฉันเพราะอะไร หรือฉันงอนเธอเพราะอะไร เราจะได้รู้ เพราถ้าต่างคนต่างเงียบ มันก็ไม่รู้ว่าคนนี้โกรธอยู่ หรือว่าคนนี้งอนเรื่องนี้อยู่ มันก็จะไม่จบ”น้อยหนึ่ง : “ด้วยความที่บางทีเราติดความเป็น Perfectionist ทำอะไรมันต้องเป๊ะ แต่ว่าบางครั้งงานมันหลุดบ้าง ซึ่งพอมันไม่ได้อย่างที่เราคิด บางครั้งเราก็เป๋ แล้วถ้าไลฟ์ไหนทะเลาะกันแรง เราลบไลฟ์ไปเลยก็มี แต่จริง ๆ พอหยุดไลฟ์ปุ๊บ อารมณ์ก็หยุดเลย แล้วเราก็มานั่งคุยกัน บางทีเราน้อยใจ บางทีเค้าน้อยใจ มันก็ต้องมาฮีลใจกันไป”ปรับจูนเข้าหากัน เพื่อให้งาน และความสัมพันธ์ปังขึ้นน้อยหนึ่ง : “มันเหมือนกับว่า เราทำยูทูบเบอร์มาก่อนเค้า และเค้าก็เป็นเบื้องหลังให้เราด้วย พอทำงานด้วยกัน เค้าก็จะเรียนรู้ได้เร็ว แต่อาจจะมีบางเรื่องที่เราอาจจะต้องสอนเค้านิดนึง อย่างเวลาเราจะเล่นมุก มันจะต้องแบบนี้นะ มันจะขำด้วย ไม่ใช่ว่านั่งนิ่ง ประมาณนั้น”นุ่น : “มันถึงเป็นที่มาของ นักช็อต ก็คือบางทีเค้าอาจจะยิงมุกมา แล้วเราไม่ได้ขำตาม เค้าก็จะบอกว่าจะช็อตทำไม แต่จริง ๆ เอาเป็นว่า ให้คิดว่า นุ่น เป็นซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์แล้วกัน คือถ้าเล่นมุกแล้วไม่มีคนขำ ก็คิดว่าให้เสียงขำของนุ่น เป็นซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์ของน้อยหนึ่ง”น้อยหนึ่ง : “เวลาไลฟ์แล้วเริ่มรู้สึกว่าคลิปไม่สนุก ก็จะตีกันไปเลย เพื่อให้กราฟมันไม่นิ่ง แต่บางครั้งเราไม่ได้เตี๊ยมเค้าก่อน แล้วบางทีเค้าโกรธจริง เราก็จะทำให้เค้าเย็นลง แล้วค่อยมาเฉลยว่า เมื่อกี๊หลอกนะ”นุ่น : “เรื่องโกรธก็มีบ้างที่อาจจะงอนเค้า เพราะบางครั้งเวลาไลฟ์ เราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเราทำอะไรผิด แล้วเค้าชอบยุชอบแกล้งในไลฟ์ จนสุดท้ายเค้ามาเฉลยว่า จริง ๆ เค้าแค่อยากจะบิ๊วท์เราให้ไลฟ์มันไม่นิ่ง”น้อยหนึ่ง : “เรื่องโปรดักชั่น เราสองคนทำกันเองทั้งหมด แต่ก็มีทีมงานเบื้องหลังที่เป็นเอเจนซี่ช่วยเราเรื่องการหางานด้วย ซึ่งเป็นบริษัทที่เราสังกัดอยู่ เค้าจะดูแลเราแบบอินฟลูเอนเซอร์ และจะมีเป็นร้อย ๆ ชีวิตเลยที่เค้าดูแลอยู่ เวลามีงานจ้างเข้ามา เค้าก็ดูว่าใครเหมาะสมกับงานไหน ถ้าเราเหมาะกับงานนั้น เค้าก็จะติดต่องานให้เรา”นุ่น : “เรื่องหน้าที่ในการทำงาน เราผลัดกัน บางทีอาจจะขับรถกันอยู่ น้อยหนึ่ง คิดไอเดียขึ้นมาได้ เค้าก็จะเป็นคนเล่าไอเดีย แล้วนุ่นก็จดไว้ หรือบางครั้งเราเป็นคนขับ มีไอเดียขึ้นมา ก็ให้น้อยหนึ่งจด แล้วก็มาทำคลิปกัน ในอนาคตมีคลิปที่อยากทำแต่ยังไม่เคยทำก็คือ คลิปที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ซึ่งยังไม่เคยลอง ซึ่งคนดูส่วนใหญ่ชอบ vlog ของน้อยหนึ่ง เพราะเค้าเป็นคนตลก เห็นอะไรก็ขำไปหมด เลยเป็นคลิปที่อยากทำถ้ามีโอกาส”“น้อยหนึ่ง-นุ่น” กับการยอมรับตัวตนจากคนในครอบครัวนุ่น : “ที่บ้านฝั่งนุ่นค่อนข้างเปิดกว้าง เค้าไม่ได้ห้ามไปนั่น ห้ามไปนี่ แล้วตัวนุ่นเอง ก็จะประพฤติตัวเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เด็ก อยู่ในร่องในรอย ตั้งใจเรียน ครอบครัวเลยเข้าใจ และเปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่ชอบ”น้อยหนึ่ง : “เราก็ค่อนข้างเป็นเด็กเรียน เราเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนจะต้องรู้ว่าลูกเป็นหรือไม่เป็น พ่อแม่รู้อยู่แล้ว แต่บางคนเค้าไม่พูด หรือบางทีเค้าไม่แน่ใจ เค้าก็อาจจะมีวิธีทดสอบเรา ซึ่งเราเองค่อนข้างโชคดีที่ครอบครัวไม่ได้บังคับ และสนับสนุนเราทุกอย่าง ไม่ค่อยมีดราม่าตอนเด็ก”นุ่น : “ตอนคบกับน้อยหนึ่งแรก ๆ พ่อแม่รู้อยู่แล้ว พอเราเริ่มพาเค้าเข้าบ้าน พ่อกับแม่ก็คงเข้าใจไปได้โดยปริยายว่านี่คือแฟนที่เราคบอยู่ หลังจากนั้นมาก็อยู่แบบนี้มาตลอด น้อยหนึ่งก็ไปมาหาสู่อยู่ตลอด ซึ่งจะต่างกับบ้านน้อยหนึ่งในตอนแรก ๆ”น้อยหนึ่ง : “คบกันแรก ๆ เราต้องแอบแม่ แต่บางครั้ง นุ่น ก็มาเจอในแบบที่เราไม่สบาย แล้วเค้ามาเยี่ยมเรา แล้วแม่ก็ถามว่านี่ใคร เราก็ดันมีพิรุธบอกไปว่าเป็นพี่ที่รู้จักกันที่โรงเรียน แต่พี่ที่รู้จักจะมาทำไม คนอื่น ๆ ไม่เห็นมา ซึ่งเราว่าแม่ต้องรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเค้าอาจจะอยากให้เราบอกเค้าเอง พอเราบอก เค้าก็รับได้ ไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย”“น้อยหนึ่ง-นุ่น” กับความรู้สึกที่มีต่อ #สมรสเท่าเทียมน้อยหนึ่ง : “รู้สึกว่า มันเป็นอีกก้าวที่ค่อนข้างสำคัญ อย่างเราไม่ได้มองว่าสมรสเท่าเทียมแล้วเราอยากจะแต่งงานกัน อยากจะใส่ชุดเจ้าสาว เราไม่ได้มองไปตรงนั้น แต่เรามองในเรื่องข้อกฎหมาย ที่จะมาคุ้มครองคู่เรามากกว่า”นุ่น : “อย่างเวลาเซ็นผ่าตัด คือน้อยหนึ่งเค้าเป็นลูกคนเดียว ถ้าหากว่าเค้าไม่มีญาติ นุ่นก็จะได้มีโอกาสเซ็นแทนหากเค้าเป็นอะไรไป หรือแม้แต่เรื่องกู้ยืม หรือว่าเรื่องบ้าน เราเองก็อยากจะมีอนาคตที่มันร่วมกัน”วิธีดูแลความรัก ของ “น้อยหนึ่ง-นุ่น”น้อยหนึ่ง : “คุย และ สื่อสารกันเยอะ ๆ ถ้าไม่พอใจ หรืออยากได้อะไรต้องพูด เพราะเราไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน ฉะนั้นบางเรื่องเค้าอาจจะไม่รู้ก็ได้ ต้องการอะไรต้องบอก อย่างเราเป็นคนค่อนข้างไม่โรแมนติกเลย แต่ว่าเค้าจะโรแมนติกมาก จนช่วงหลัง ๆ มาก็ปรับจูนกัน ก็ทำให้เข้าใจเค้ามากขึ้น”นุ่น : “ความชอบของเราเปลี่ยนไปทุกวันอยู่แล้ว เราก็หมั่นอัพเดทเค้าหน่อย เพราะเค้าอยู่ข้างๆ เรา จะไปอัพเดทคนอื่น ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่อง คุยกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนดีกว่า นุ่น อยากบอก น้อยหนึ่งว่า ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่เป็นทั้งแฟน ทั้งเพื่อน และเป็นเพื่อนร่วมงานด้วย ขอบคุณที่อยู่กันมาถึง 17 ปี อาจจะมีทั้งสุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่โดยรวมแฮปปี้ ขอบคุณนะครับ”น้อยหนึ่ง : “จริง ๆ ก็ไม่ค่อยพูดอะไรหวาน ๆ ก็รักนะ อยากให้ดูแลสุขภาพด้วย เพราะว่าอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แล้วถ้าใครชื่นชอบคู่เรา ก็อย่าลืมติดตามช่องหนึ่งเมคอัพ แล้วก็ช่องผัวน้อยชาแนลด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้กันค่ะ”ดูรายการย้อนหลัง

ทำความรู้จัก “นุ่น - น้อยหนึ่ง” คู่รักนักสร้างมีม ที่ช็อตฟีลกันแบบสุด แล้วหยุดที่ไวรัล
01 ธ.ค. 2023
Club Pride Day Recap

ทำความรู้จัก “นุ่น - น้อยหนึ่ง” คู่รักนักสร้างมีม ที่ช็อตฟีลกันแบบสุด แล้วหยุดที่ไวรัล

เป็น Club ที่คอยเติมสีสัน แบ่งปันแรงบันดาลใจ ในทุก ๆ สัปดาห์ กับ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride ทอล์คกระทบไหล่กับตัวแม่ กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้เปิดไมค์ต้อนรับแขกรับเชิญสุดพิเศษ “น้อยหนึ่ง-นุ่น” คู่รักนักช็อตฟีล เจ้าของมีมสุดไวรัลในโซเชียล ที่จับมือกันมาเล่าเรื่องราวสีสันของชีวิต พร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจดี ๆ ในรายการด้วยย้อนวันวาน ของ “น้อยหนึ่ง”น้อยหนึ่ง : “น้อยหนึ่งเรียนจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจริง ๆ แล้วความฝันของเราคืออยากเป็นครู และหลังจากเรียนจบ เราได้ไปเป็นอาจารย์พิเศษก่อน 2 ปี เราชอบสอน ชอบสื่อสาร จากนั้นก็ได้ไปเรียนต่อปริญญาโท คณะครุศาสตร์ศิลปศึกษา ระหว่างเรียนก็ทำงานไปด้วย ปรากฏว่าพอทำงานได้เงิน ก็ตัดสินใจเลิกเรียนเลย ทั้ง ๆ ที่การเรียนปริญญาโทเหลือแค่เอาวิทยานิพนธ์ไปทดลองก็จะเรียนจบแล้ว แต่เราเลือกที่จะออกมาทำงาน แต่งานที่เราทำอยู่มันก็เหมือนกึ่ง ๆ เป็นครูด้วย เพราะมีการสอนบ้างบางครั้งพอมาทำงาน เราก็ได้เอาความรู้จากตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาปรับใช้ เช่น ตอนที่เราคิดงาน ก็จะใช้หลักการของสถาปนิก หรือว่าหลักการของนักออกแบบ มาใช้ในการคิดโจทย์ต่าง ๆ หรือเวลามีลูกค้าเข้ามา เราก็พยายามคิด และแปลงโจทย์ออกมาเป็น Presentation เพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าที่สุด มันกลายเป็นความรู้สึกดีใจ ที่เรายังสามารถเอาทักษะจากการเรียนมาใช้ในการทำงานได้ด้วยส่วนที่มาของงานแต่งหน้า มาจากที่เราชอบศิลปะ ชอบวาดรูป แล้วเราได้มีโอกาสทำบอดี้เพนท์ ซึ่งมันเหมือนกับการวาดรูปการ์ตูนบนใบหน้า พอได้ทำก็รู้สึกว่าสนุกดี พอเรามีผลงานก็เอาไปลงในเว็บบอร์ด จากนั้นก็มีคนเข้ามาดูผลงาน แล้วก็จะมีคนคอมเมนต์ถามมาว่าส่วนนี้ทำอย่างไร แล้วเราก็ต้องไปอธิบายว่าเราทำอย่างไร ท้ายที่สุดเลยตัดสินใจว่า ถ้าอย่างนั้นเราสอนเลยดีกว่า ก็สอนแต่งหน้าเลย สอนแต่งเป็นผี แต่งแฟนซี ซึ่งสอนมาประมาณ 10 ปี ตั้งแต่เริ่มทำบล็อกเกอร์มา”ย้อนวันวาน ของ “นุ่น”นุ่น : “นุ่นเรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตั้งแต่เรียนจบก็เป็นพนักงานออฟฟิศมาตลอด เพิ่งจะออกมาทำยูทูบเบอร์กับน้อยหนึ่งได้ 2 ปี ซึ่งจริง ๆ เราเรียนจบ บรรณารักษศาสตร์ ซึ่งไม่ตรงกับงานที่ทำด้วยซ้ำ เพราะทำงานเกี่ยวกับสายนำเข้าส่งออกพัสดุ ซึ่งเราทำงานในส่วนของการดูแลลูกค้า แล้วก็ย้ายไปทำเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค แล้วก็กระโดดเปลี่ยนสายอีกครั้ง ไปทำงานเอเจนซี่โฆษณา ทำได้ประมาณ 1 ปี แล้วน้อยหนึ่งก็ชวนให้ออกมาทำยูทูบเบอร์ด้วยกันไหม เพราะระหว่างที่เป็นพนักงานออฟฟิศ เราก็ทำช่องมาแล้วสักพัก มันก็เริ่มโตขึ้น ๆ แล้วเราก็เริ่มเห็นว่ามันเริ่มมีโอกาสที่จะโตได้มากกว่านี้ ถ้าเราออกมาทำจริงจังก็น่าจะดี ในระหว่างตัดสินใจก็โลเลเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ น้อยหนึ่ง ช่วยซัพพอร์ท เค้าบอกว่าออกมาลองดูสักตั้งก่อนก็ได้ ซึ่งเราก็คิดไว้แล้วว่า ถ้าสมมติมันไม่รุ่ง ก็จะกลับไปเป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนเดิมเรื่องความกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone เรามองว่า มันก็ไม่แปลกถ้าบางคนจะยังติดอยู่ใน Comfort Zone ส่วนตัวนุ่นเอง เราเป็นคนที่ชอบกระโดดไปเรื่อย ๆ มันสนุกกว่า เพราะสิ่งที่มันได้กลับมาคือความตื่นเต้น ถ้าสมมติว่าเราประสบความสำเร็จ เราจะรู้สึกว่ามีพลัง และมีกำลังพอที่จะก้าวต่อไป และถ้าจะให้แนะนำก็คิดว่าควรเริ่มจาก Comfort Zone เล็ก ๆ ก่อนดีกว่า อย่างตอนที่นุ่นลองทำช่องก่อน โดยที่ยังเป็นพนักงานออฟฟิศอยู่ มันเหมือนเป็นการกระโดดไปชิมลางก่อน ถ้ามันทำได้ เราก็เต็มที่ 100% กับตรงนี้เลย แล้วเมื่อมันประสบความสำเร็จแล้ว เราก็สามารถที่จะไปทำอย่างอื่นต่อได้”จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ ของ “น้อยหนึ่ง-นุ่น”น้อยหนึ่ง : “จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกันคือ จากการที่เราไปโพสต์โปรไฟล์ไว้ในเว็บบอร์ด แล้วก็ได้มีโอกาสแอด msn คุยกัน คุยหมดเลยทุกเรื่อง แล้วเราคุยกับเค้า แต่จำชื่อเค้าไม่ได้ด้วยนะ พอวันที่มาเจอหน้ากัน คุยไปคุยมาจึงรู้สึกว่า คนนี้มีอะไรพิเศษ แล้วด้วยความที่บ้านใกล้กัน แล้วตอนนั้นเราหิวข้าวแต่ไม่อยากกินข้าวคนเดียว ซึ่งเค้าก็อยู่แถวนั้นพอดี ก็เลยชวนมาเจอกัน หลังจากนั้นก็คุยกันประมาณ 3-4 เดือนได้”นุ่น : “คุยกันใน msn ตอนแรกเรายังไม่เห็นหน้าเค้า เพราะเค้าไม่ได้โชว์รูป ตอนนั้น น้อยหนึ่ง อยู่ ม.6 นุ่น อยู่ ปี 3 แต่พอได้คุยกันรู้สึกถูกคอ นุ่นก็ขอเค้าเป็นแฟน ด้วยความที่เค้าเป็นคนที่มีความคิดแปลก ๆ ซึ่งแปลกในที่นี้คือ เค้าชอบคิดเรื่องนิยาย คิดเรื่องผี แล้วพอเค้าคิดอะไรได้ในหัว เค้าก็มาเล่าให้เราฟังหมด และด้วยความที่นุ่นเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เค้าเป็นคนพูดเก่ง เราก็รู้สึกว่า แม้เรื่องที่เล่ามันค่อนข้างที่จะส่วนตัวสำหรับเค้า แต่เค้าก็กล้าที่จะมาเล่าให้เราฟัง ตอนนั้นมันเลยรู้สึกว่า เค้าคิดอะไรกับเรารึเปล่านะ เหมือนว่าเราโทรศัพท์คุยกันทุกวัน แต่เค้ามีเรื่องมาเล่าให้เราฟังได้ทุกวัน มันก็เพลินเหมือนกัน”“ผัวน้อย” ชื่อช่องนี้ ได้แต่ใดมานุ่น : “ตอนที่จะตั้งชื่อช่อง ก็ถาม น้อยหนึ่ง ว่าจะตั้งชื่อช่องยังไงดี ให้มันนำเสนอความเป็นตัวเรา แล้วก็เป็นตัวเค้าด้วย เพราะว่าเป็นช่องที่เราทำกันสองคน น้อยหนึ่งบอกว่าก็เป็น ผัวน้อย ก็ได้ เรียกแทนตัวเองว่าเป็นผัวน้อยของคนอื่นด้วย แล้วก็อีกส่วนหนึ่งก็เป็นผัวของน้อยหนึ่งด้วย”น้อยหนึ่ง : “จริง ๆ ชื่อ น้อยหนึ่ง นุ่น ก็เป็นคนตั้งให้นะ เพราะปกติชื่อหนึ่งเฉย ๆ แล้วตอนนั้นอยากได้ชื่อ เพื่อเอาไปตั้งเป็นชื่อเฟสบุ๊ค เราอยากได้ชื่อที่มันอ่านแล้วรู้สึกไร้กาลเวลา และดูเด็กอยู่ตลอด”นุ่น : “ชื่อ น้อยหนึ่ง ตอนแรกที่เมมเบอร์โทรศัพท์ ด้วยความที่เรามีเพื่อนชื่อหนึ่งหลายคน พอเค้าเป็นแฟน ถ้าจะเมมว่าหนึ่งเฉย ๆ มันก็ไม่แตกแต่ง เราก็เลยเติมเป็น น้อยหนึ่ง จะได้ดูแบบน่ารักกุ๊กกิ๊ก”เป็นแฟนกัน ทำงานด้วยกัน ทะเลาะกันไหม ?น้อยหนึ่ง : “ก็มีตีกันบ้าง แต่มันเป็นการตีกันเรื่องงาน พอจบงานแล้วก็คุยกันเลย แล้วเราก็มีกฎคือ เราไม่ทะเลาะกันเกิน 1 วัน เป็นกฎที่ตกลงตั้งแต่แรกตอนคบกัน เพราะว่าเราเคยทะเลาะกันเกิน 1 วันแล้ว สุดท้ายเราก็ต้องมาคุยกันอยู่ดี มันรู้สึกว่าเสียเวลา เราคุยกันเลยดีกว่า บังคับตัวเองหน่อย เอาอีโก้ออกก่อน เพราะถ้านอนไปทั้ง ๆ ที่ใจมันขุ่นมัว พรุ่งนี้มันก็จะขุ่นมัว ก็เลยตั้งกฎเอาไว้เลยว่า เวลาทะเลาะกันเรื่องอะไร จะเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ 1 วันต้องเคลียร์ให้จบ”นุ่น : “ที่น้อยหนึ่งพูดว่า 1 วันต้องให้จบ บางทีมันอาจจะไม่ได้จบ แต่ความหมายจริง ๆ คือ ถ้าทะเลาะกันไม่ควรจะเงียบ ต้องคุยก่อน บางที 1วัน มันอาจจะแก้ปัญหาไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยเราเริ่มคุยกันก่อนว่าเธอโกรธฉันเพราะอะไร หรือฉันงอนเธอเพราะอะไร เราจะได้รู้ เพราถ้าต่างคนต่างเงียบ มันก็ไม่รู้ว่าคนนี้โกรธอยู่ หรือว่าคนนี้งอนเรื่องนี้อยู่ มันก็จะไม่จบ”น้อยหนึ่ง : “ด้วยความที่บางทีเราติดความเป็น Perfectionist ทำอะไรมันต้องเป๊ะ แต่ว่าบางครั้งงานมันหลุดบ้าง ซึ่งพอมันไม่ได้อย่างที่เราคิด บางครั้งเราก็เป๋ แล้วถ้าไลฟ์ไหนทะเลาะกันแรง เราลบไลฟ์ไปเลยก็มี แต่จริง ๆ พอหยุดไลฟ์ปุ๊บ อารมณ์ก็หยุดเลย แล้วเราก็มานั่งคุยกัน บางทีเราน้อยใจ บางทีเค้าน้อยใจ มันก็ต้องมาฮีลใจกันไป”ปรับจูนเข้าหากัน เพื่อให้งาน และความสัมพันธ์ปังขึ้นน้อยหนึ่ง : “มันเหมือนกับว่า เราทำยูทูบเบอร์มาก่อนเค้า และเค้าก็เป็นเบื้องหลังให้เราด้วย พอทำงานด้วยกัน เค้าก็จะเรียนรู้ได้เร็ว แต่อาจจะมีบางเรื่องที่เราอาจจะต้องสอนเค้านิดนึง อย่างเวลาเราจะเล่นมุก มันจะต้องแบบนี้นะ มันจะขำด้วย ไม่ใช่ว่านั่งนิ่ง ประมาณนั้น”นุ่น : “มันถึงเป็นที่มาของ นักช็อต ก็คือบางทีเค้าอาจจะยิงมุกมา แล้วเราไม่ได้ขำตาม เค้าก็จะบอกว่าจะช็อตทำไม แต่จริง ๆ เอาเป็นว่า ให้คิดว่า นุ่น เป็นซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์แล้วกัน คือถ้าเล่นมุกแล้วไม่มีคนขำ ก็คิดว่าให้เสียงขำของนุ่น เป็นซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์ของน้อยหนึ่ง”น้อยหนึ่ง : “เวลาไลฟ์แล้วเริ่มรู้สึกว่าคลิปไม่สนุก ก็จะตีกันไปเลย เพื่อให้กราฟมันไม่นิ่ง แต่บางครั้งเราไม่ได้เตี๊ยมเค้าก่อน แล้วบางทีเค้าโกรธจริง เราก็จะทำให้เค้าเย็นลง แล้วค่อยมาเฉลยว่า เมื่อกี๊หลอกนะ”นุ่น : “เรื่องโกรธก็มีบ้างที่อาจจะงอนเค้า เพราะบางครั้งเวลาไลฟ์ เราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเราทำอะไรผิด แล้วเค้าชอบยุชอบแกล้งในไลฟ์ จนสุดท้ายเค้ามาเฉลยว่า จริง ๆ เค้าแค่อยากจะบิ๊วท์เราให้ไลฟ์มันไม่นิ่ง”น้อยหนึ่ง : “เรื่องโปรดักชั่น เราสองคนทำกันเองทั้งหมด แต่ก็มีทีมงานเบื้องหลังที่เป็นเอเจนซี่ช่วยเราเรื่องการหางานด้วย ซึ่งเป็นบริษัทที่เราสังกัดอยู่ เค้าจะดูแลเราแบบอินฟลูเอนเซอร์ และจะมีเป็นร้อย ๆ ชีวิตเลยที่เค้าดูแลอยู่ เวลามีงานจ้างเข้ามา เค้าก็ดูว่าใครเหมาะสมกับงานไหน ถ้าเราเหมาะกับงานนั้น เค้าก็จะติดต่องานให้เรา”นุ่น : “เรื่องหน้าที่ในการทำงาน เราผลัดกัน บางทีอาจจะขับรถกันอยู่ น้อยหนึ่ง คิดไอเดียขึ้นมาได้ เค้าก็จะเป็นคนเล่าไอเดีย แล้วนุ่นก็จดไว้ หรือบางครั้งเราเป็นคนขับ มีไอเดียขึ้นมา ก็ให้น้อยหนึ่งจด แล้วก็มาทำคลิปกัน ในอนาคตมีคลิปที่อยากทำแต่ยังไม่เคยทำก็คือ คลิปที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ซึ่งยังไม่เคยลอง ซึ่งคนดูส่วนใหญ่ชอบ vlog ของน้อยหนึ่ง เพราะเค้าเป็นคนตลก เห็นอะไรก็ขำไปหมด เลยเป็นคลิปที่อยากทำถ้ามีโอกาส”“น้อยหนึ่ง-นุ่น” กับการยอมรับตัวตนจากคนในครอบครัวนุ่น : “ที่บ้านฝั่งนุ่นค่อนข้างเปิดกว้าง เค้าไม่ได้ห้ามไปนั่น ห้ามไปนี่ แล้วตัวนุ่นเอง ก็จะประพฤติตัวเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เด็ก อยู่ในร่องในรอย ตั้งใจเรียน ครอบครัวเลยเข้าใจ และเปิดโอกาสให้เราได้ทำในสิ่งที่ชอบ”น้อยหนึ่ง : “เราก็ค่อนข้างเป็นเด็กเรียน เราเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนจะต้องรู้ว่าลูกเป็นหรือไม่เป็น พ่อแม่รู้อยู่แล้ว แต่บางคนเค้าไม่พูด หรือบางทีเค้าไม่แน่ใจ เค้าก็อาจจะมีวิธีทดสอบเรา ซึ่งเราเองค่อนข้างโชคดีที่ครอบครัวไม่ได้บังคับ และสนับสนุนเราทุกอย่าง ไม่ค่อยมีดราม่าตอนเด็ก”นุ่น : “ตอนคบกับน้อยหนึ่งแรก ๆ พ่อแม่รู้อยู่แล้ว พอเราเริ่มพาเค้าเข้าบ้าน พ่อกับแม่ก็คงเข้าใจไปได้โดยปริยายว่านี่คือแฟนที่เราคบอยู่ หลังจากนั้นมาก็อยู่แบบนี้มาตลอด น้อยหนึ่งก็ไปมาหาสู่อยู่ตลอด ซึ่งจะต่างกับบ้านน้อยหนึ่งในตอนแรก ๆ”น้อยหนึ่ง : “คบกันแรก ๆ เราต้องแอบแม่ แต่บางครั้ง นุ่น ก็มาเจอในแบบที่เราไม่สบาย แล้วเค้ามาเยี่ยมเรา แล้วแม่ก็ถามว่านี่ใคร เราก็ดันมีพิรุธบอกไปว่าเป็นพี่ที่รู้จักกันที่โรงเรียน แต่พี่ที่รู้จักจะมาทำไม คนอื่น ๆ ไม่เห็นมา ซึ่งเราว่าแม่ต้องรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเค้าอาจจะอยากให้เราบอกเค้าเอง พอเราบอก เค้าก็รับได้ ไม่ได้เป็นเรื่องยากเลย”“น้อยหนึ่ง-นุ่น” กับความรู้สึกที่มีต่อ #สมรสเท่าเทียมน้อยหนึ่ง : “รู้สึกว่า มันเป็นอีกก้าวที่ค่อนข้างสำคัญ อย่างเราไม่ได้มองว่าสมรสเท่าเทียมแล้วเราอยากจะแต่งงานกัน อยากจะใส่ชุดเจ้าสาว เราไม่ได้มองไปตรงนั้น แต่เรามองในเรื่องข้อกฎหมาย ที่จะมาคุ้มครองคู่เรามากกว่า”นุ่น : “อย่างเวลาเซ็นผ่าตัด คือน้อยหนึ่งเค้าเป็นลูกคนเดียว ถ้าหากว่าเค้าไม่มีญาติ นุ่นก็จะได้มีโอกาสเซ็นแทนหากเค้าเป็นอะไรไป หรือแม้แต่เรื่องกู้ยืม หรือว่าเรื่องบ้าน เราเองก็อยากจะมีอนาคตที่มันร่วมกัน”วิธีดูแลความรัก ของ “น้อยหนึ่ง-นุ่น”น้อยหนึ่ง : “คุย และ สื่อสารกันเยอะ ๆ ถ้าไม่พอใจ หรืออยากได้อะไรต้องพูด เพราะเราไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน ฉะนั้นบางเรื่องเค้าอาจจะไม่รู้ก็ได้ ต้องการอะไรต้องบอก อย่างเราเป็นคนค่อนข้างไม่โรแมนติกเลย แต่ว่าเค้าจะโรแมนติกมาก จนช่วงหลัง ๆ มาก็ปรับจูนกัน ก็ทำให้เข้าใจเค้ามากขึ้น”นุ่น : “ความชอบของเราเปลี่ยนไปทุกวันอยู่แล้ว เราก็หมั่นอัพเดทเค้าหน่อย เพราะเค้าอยู่ข้างๆ เรา จะไปอัพเดทคนอื่น ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่อง คุยกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนดีกว่า นุ่น อยากบอก น้อยหนึ่งว่า ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่เป็นทั้งแฟน ทั้งเพื่อน และเป็นเพื่อนร่วมงานด้วย ขอบคุณที่อยู่กันมาถึง 17 ปี อาจจะมีทั้งสุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่โดยรวมแฮปปี้ ขอบคุณนะครับ”น้อยหนึ่ง : “จริง ๆ ก็ไม่ค่อยพูดอะไรหวาน ๆ ก็รักนะ อยากให้ดูแลสุขภาพด้วย เพราะว่าอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แล้วถ้าใครชื่นชอบคู่เรา ก็อย่าลืมติดตามช่องหนึ่งเมคอัพ แล้วก็ช่องผัวน้อยชาแนลด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้กันค่ะ”ดูรายการย้อนหลัง

Club Pride Day x เป้ย ไปเรื่อย | 30 พ.ย. 66
01 ธ.ค. 2023
CLUB PRIDE DAY

Club Pride Day x เป้ย ไปเรื่อย | 30 พ.ย. 66

Club Pride Day x เป้ย ไปเรื่อย | 30 พ.ย. 66 . มิ้นท์ - จอย ขอออกจากโซเชียลมาเที่ยวกับ "เป้ย ไปเรื่อย" อดีตสไตลิสต์สุดคูล สู่อินฟลูฯ สุดปัง!! พฤหัสนี้พร้อมกระทบไหล่ไปด้วยกัน 3 ทุ่ม - 4 ทุ่ม . กับดีเจพี่อ้อย และ ก็อตจิ ทาง GreenWave 106.5 FM FB / TIKTOK: @greenwave1065 Youtube: Atime . Club Pride Day คุยอย่าง Proud เม้าท์อย่าง Pride ทอล์กกระทบไหล่กับตัวแม่! . #ClubPrideDay #GreenWave1065 #GreenWave #เป้ย #เป้ยไปเรื่อย #ตัวแม่ #toppeii #peii #Fantasy #worldequality #ดีเจพี่อ้อย #ก๊อตจิ #ตัวแม่

Chill Online

พาทัวร์ POP MART สาขาที่ 2 ในไทย Terminal 21 Asok ชั้น M
01 ธ.ค. 2023
Review Chill Style

พาทัวร์ POP MART สาขาที่ 2 ในไทย Terminal 21 Asok ชั้น M

สายอาร์ตทอยมุงด่วน วันนี้เราพาทุกคนมาทัวร์ POP MART สาขาใหม่ ซึ่งถือเป็นสาขาที่ 2 ในไทย ตั้งอยู่ที่ Terminal 21 อโศก ชั้น M งานนี้ของแน่นร้าน จัดเต็มทุกคอลเลกชันPOP MART สาขาใหม่นี้ เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกสุด ๆ มาได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอโศก และรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสุขุมวิท จากนั้นเดินสกายวอร์คเชื่อมเข้าห้าง Terminal 21 ได้เลย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น M ชั้นเดียวกับสกายวอร์คเลย หาง่ายมาก ๆภายในร้านก็คือตกแต่งน่ารัก มีตัวอย่างกล่องสุ่มให้ดู ละลานตาสุด ๆ ถูกใจสายอาร์ตทอยแน่นอนใครจะมาจุ่มเล่นแบบคนที่ชอบลุ้น หรือจะซื้อยก box ก็ได้นะ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 - 22.00 น. เลย

เดินเที่ยวชมมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023"
01 ธ.ค. 2023
Review Chill Style

เดินเที่ยวชมมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023"

เริ่มต้นขึ้นแล้วกับงานที่คนชื่นชอบรถไม่ควรพลาด! มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023" ครั้งนี้บอกเลยว่า "จัดหนัก จัดเต็ม" ทั้งรถยนต์ รถกะบะ หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้า ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ ทั้งค่ายเล็ก หรือว่าค่ายใหญ่ ขนมาอวดโฉมกันเพียบ พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ กันอีกด้วย พร้อมแล้ว ไปลุยกันเลย!!มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023" จัดขึ้นที่ Impact Challenger 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1-11 ธันวาคม 2566 ภายในงานบอกเลยว่าค่ายเล็ก ค่ายใหญ่เพียบ เริ่มต้นกันที่สายลุย สายรถกะบะ ทั้ง ISUZU, FORD, Mitsubishi, Nissan ขนตัวเด็ด ๆ มาให้ได้ยลโฉมกันถัดจากสายลุย เรามาต่อสายรถเก๋งขนาดกะทัดรัด ก็มีมาให้ชมไม่น้อย ทั้งค่าย Suzuki, Honda, Mazda มีให้เลือกชมหลายรุ่น ทั้งแบบ Eco Car ก็มี หรือแบบรถทรง Sport ทั้งแบบ 4 ประตู และ 5 ประตู ก็มีด้วย ใครรักชอบค่ายไหนอยู่ บอกเลยว่าได้ดูกันเพลินทีนี้ส่วนใครที่ชื่นชอบรถสปอร์ตหรูทั้งหลาย ปีนี้จัดมาแบบเน้น ๆ ทั้ง AUDI, BMW, Mercedes-Benz, Porsche, Volvo, KIA, Hyundai รวมไปถึงชุดแต่ง เห็นแล้วตาลุกวาวกันเลยแหละกระแสร้อนแรงสุด ๆ ถ้าไม่พูดถึงรถไฟฟ้า ก็คงแปลกมาก เพราะตอนนี้กำลังฮิตเป็นอย่างมากในประเทศไทย ในงานนี้ค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ขนมาเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Tesla, BYD, Neta, Wuling, AION แต่ลค่ายสวย ๆ ทั้งนั้น คอรถไฟฟ้าทั้งหลาย ไปงานนี้ถูกใจแน่นอนปิดท้ายด้วยสาวก 2 ล้อ สายมอเตอร์ไซค์ทั้งหลาย ปีนี้ขนกันมาแบบจัดเต็มไม่แพ้รถใหญ่กันเลย ทั้ง YAMAHA, Honda, Kawasaki, Triumph, Lambretta และรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าค่ายอื่น ๆ ก็มีอีกด้วยบอกเลยว่าปีนี้ ใครที่ชื่นชอบรถทั้งหลาย ไม่ว่าจะรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ชอบของแต่งรถ อุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องไม่พลาดงานนี้น้า มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 "Motor Expo 2023" จัดขึ้นที่ Impact Challenger 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 1-11 ธันวาคม 2566 เท่านั้น

คุยกับ Tattoo Colour กับคอนเสิร์ตใหญ่ "กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest"
29 พ.ย. 2023
Chill Talk

คุยกับ Tattoo Colour กับคอนเสิร์ตใหญ่ "กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest"

มาพูดคุยกับ 4 หนุ่ม "Tattoo Colour" พี่รัฐ พี่ดิม พี่ตง และพี่จั้ม ถึงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 5 ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ "กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest" ที่เล่าบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย ต่างใจจดใจจ่อรอชมความมันส์ของพวกเขา มาดูกันกว่าว่าพวกพี่ ๆ จะเตรียมตัวพร้อมโชว์ให้แฟน ๆ ได้ชมกันหรือยังความรู้สึกเมื่อรู้ว่าวงเรากำลังจะมีคอนเสิร์ต กาลครั้ง 5 tattoo อีกครั้งพี่ดิม : จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่มีคอนเสิร์ตกาลครั้ง 1 เราทำกันมาตลอด จนมาถึงกาลครั้ง 5 เราก็มานั่งทำการบ้าน ว่าเราจะทำให้ครั้งที่ 5 เนี่ย มันยิ่งใหญ่ได้ยังไง ถ้าใหญ่กว่า Music ทั่วไป ก็เป็น Music Festival ดีกว่าไหมก็เลยเป็น กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็อยากจะให้ทุกคนได้มาดู อยากให้เห็นว่าความยิ่งใหญ่ของมัน ว่าเราทุ่มเทกันมากแค่ไหนนะครับก็ไม่อยากให้พลาดนะครับรู้สึกยังไงบ้าง ที่วงเราอยู่มาอย่างยาวนานแล้ว แต่ก็ยังมีแฟนคลับคอยติดตาม และรอคอนเสิร์ตของวงเราอยู่ตลอดพี่รัฐ : จริงจริงเราดีใจมากนะ แล้วเราก็คิดอยู่เสมอแหละว่ามันเป็นวงไม่กี่วง ที่มีอายุวงได้นานขนาดนี้แล้วก็มีแฟนเพลงอยู่ตลอดเนี่ยครับ ก็ต้องบอกว่าดีใจมากและขอบคุณมากที่แบบให้เกียรติพวกเรายังแบบคอยติดตามมาตลอด ซึ่งก็เป็นสิ่งที่แบบเป็นความขอพูดแทนเพื่อน ๆ ก็คือเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ เหมือนกันที่เราทําได้ตามที่เราตั้งไว้ อย่างเมื่อก่อนตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เคยมีสื่อมาถาม ว่าความคาดหวังของวง Tattoo Colour อยากให้ไปทางไหน เราบอกสื่อว่า อยากให้ Tattoo Colourเลี้ยงตัวเองได้เป็นอาชีพจริง ๆ ให้มันอยู่ได้ยาว ๆ ซึ่งเราก็พยายามทําให้ได้ตลอด แล้วก็ถ้าถามว่าต่อไปเราจะเป็นยังไง เราก็จะตอบว่า เราก็จะเป็นอย่างนี้แหละ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ยุคสมัยหรือตามไอเดียใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น แต่เราก็ยังอยากให้วงไปต่อได้เรื่อย ๆ ครับความพร้อมของคอนเสิร์ตตอนนี้กี่เปอร์เซ็นพี่ดิม : ก็พร้อมมาแล้วก็ประมาณ 20% ในการที่ดูเรื่องแบบเวที คือตกตะกอนกันหมดแล้วเหลือจะวิธีทํามันแค่นั้นแหละครับพี่รัฐ : ก็คือว่าในรายละเอียดของคอนเสิร์ตเรามีหลายส่วนนะครับ ส่วนความเป็นนักดนตรีก็ต้องซ้อมเลือกเพลงหรือว่ามีการเรียบเรียงเพลงอีกอย่างนึงฝั่ง ส่วนฝั่งของผู้จัดฝั่งอื่น เช่น เวทีก็ต้องเตรียมเวที ฝั่งไฟก็เตรียมไฟอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยครับ ส่วนเรื่องการขายบัตรได้มากมาย ก็ตอนเนี่ยถ้ามองเป็นตารางเนี่ย เราพร้อมขึ้นตามลําดับเลย ไม่มีตรงไหนพลาดแล้ว พอถึงวันจริงทุกคนน่าจะพร้อมถึงจุดที่สมบูรณ์ที่สุดในวันงานเลยครับเห็น Feedback ของคอนเสิร์ตที่ผ่านมา ได้รับ Feedback ดีมากเลย ทั้งเรื่องโชว์และการเอ็นเตอร์เทรน อยากรู้เคล็ดลับก่อนขึ้นคอนเสิร์ตของพี่ๆทุกคน ว่ามีเคล็ดลับอะไรไหมพี่ดิม : เคล็ดลับของเราก็คงจะเป็นการยืดเส้นยืดสาย แล้วก็คงจะเป็นการเรียบเรียงดนตรีที่แบบว่าตรงเนี้ยท่อนเนี่ยเราจะดรอปลงมาให้คนย่อเพื่อจะกระโดดลงไปยังไง หรือการเรียบเรียงท่อนที่เราอยากให้คนปรบมือยังไง ก็คือเราจะเตรียมตั้งแต่การเรียบเรียงนะครับ แล้วก็ความสนุกสนานของเราก็อยู่ที่หน้างานด้วยว่าหน้างานมีมุกมีอะไรตอนไหนให้แซวไหมสปอยคอนเซปของคอนเสริต์ครั้งนี้หน่อยว่า แฟนๆที่ไปดู จะได้เห็นอะไรบ้าง หรือมีอะไรเซอร์ไพรส์แฟน ๆ บ้างพี่ตง : ด้วยความที่เป็น Festival นะครับเพราะฉะนั้นเรามีหลายเวทีมาก แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าคุณจะนั่งอยู่ตรงไหนก็ตามคุณจะได้สัมผัสเราใกล้ ๆ เลยพี่ดิม : อยู่บนดอยก็อาจจะมีเวทีก็ได้นะ (555)พี่ตง : แล้วก็อีกอย่างนึงก็คือว่า พวก Lighting หรือว่าเวทีต่าง ๆ คุณจะไม่ได้สัมผัสมันแค่นี้ แต่คุณจะได้สัมผัสมันทั้งหมดนะครับอยากบอกอะไรกับแฟนคลับของวงเรา แล้วก็ให้พี่ๆ เชิญชวนทุกคนไปคอนเสิร์ตพี่จั๊ม : กาลครั้ง 5 Tattoo Colour Fest นะครับ 3 กุมภาพันธ์ ที่อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี จองบัตรได้วันที่ 2 ธันวาคมที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์นะครับ เริ่มกดบัตรได้ตอนเที่ยงนะครับก็เตรียมตัวกดบัตรกันดี ๆ นะครับพี่ดิม : อีก 3 วันนะครับทุกคน

Atime Showbiz

Chang Music Connection presents MICRO THE LAST ร็อคเล็กเล็ก
24 ก.พ. 2023
Ticket Now

Chang Music Connection presents MICRO THE LAST ร็อคเล็กเล็ก

มาร่วมสร้างปรากฏการณ์คอนเสิร์ตใหญ่เต็มวงครั้งสุดท้ายของไมโครด้วยกันChang Music ConnectionpresentsMICROTHE LAST ร็อคเล็กเล็กเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 รอบ 1 ทุ่มและ อาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2566 รอบ 6 โมงเย็นIMPACT ARENA เมืองทองธานีขายบัตร 29 มีนาคม 256610.00 โมง เป็นต้นไปบัตรราคา : 6,000 / 5,000 / 4,500 / 4,000 / 3,500 / 3,000 / 2,500 / 1,500จำหน่ายที่ ThaiTicketMajor ทุกสาขา และ www.thaiticketmajor.com#Chang #ChangMusicConnection#MICRO #ไมโคร #MicroRockBand #THELAST #ร็อคเล็กเล็ก #คอนเสิร์ตใหญ่เต็มวงครั้งสุดท้ายสำหรับลูกค้าที่ถือบัตรคอนเสิร์ตเดิม (ไมโคร จำฝังใจ)ผู้ถือบัตรอ่อนเดิม (ยังไม่ได้ไปแลกบัตรแข็ง) ลูกค้าสามารถนำบัตรอ่อน หรือเอกสารการจองบัตรไปแลกบัตรแข็งแบบใหม่ได้ผู้ถือบัตรแข็งเดิม ลูกค้าทุกท่านต้องนำบัตรแข็งเดิม ไปเปลี่ยนบัตรแข็งแบบใหม่ รอบการแสดงใหม่ (ที่นั่งเดิม)โดยรอบการแสดงเปลี่ยนเป็นดังนี้ลูกค้าที่จองรอบวันเสาร์ จะเปลี่ยนรอบการแสดงเป็นเสาร์ 20 พ.ค.66 / 19:00 น.ลูกค้าที่จองรอบวันอาทิตย์ จะเปลี่ยนรอบการแสดงเป็นอาทิตย์ 21 พ.ค.66 / 18:00 น.ทั้งผู้ถือบัตรอ่อนและบัตรแข็งเดิมแลกบัตรแข็งแบบใหม่ได้ตั้งแต่ 29 มีนาคมเป็นต้นไปที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขาตรวจสอบจุดจำหน่ายได้ที่ - https://corporate.thaiticketmajor.com/outlet-location.php***(ยกเว้นลูกค้าที่ถูกเปลี่ยนผัง จะมีทีมติดต่อไปเพื่อแจ้งย้ายที่นั่งให้ ก่อนการขายบัตร)ในกรณีที่ทำบัตรหายติดต่อ callcenter TTM.-----Chang Music ConnectionpresentsMICROTHE LAST ร็อคเล็กเล็กเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม 2566 รอบ 1 ทุ่มและ อาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2566 รอบ 6 โมงเย็นIMPACT ARENA เมืองทองธานีขายบัตร 29 มีนาคม 2566 | 10.00 โมง เป็นต้นไป (ทุกช่องทางการจำหน่าย)บัตรราคา : 1,500 / 2,500 / 3,000 / 3,500 / 4,000 / 4,500 / 5,000 / 6,000จำหน่ายที่ ThaiTicketMajor ทุกสาขา และ www.thaiticketmajor.com

Beach Boys & Girls Music Fest
12 ม.ค. 2023
Ticket Now

Beach Boys & Girls Music Fest

Summer นี้ Atimeshowbiz เปิดประเดิม Music Fest แรกของปีชวนมาท้าความร้อนไปกับ ศิลปินตัวตึงแห่งชาร์ต ยกพลขึ้นหาด เต็มกราฟความฟิน!!!ใน “Beach Boys Girls Music Fest ”ฟินไปกับตัวท็อปฝั่ง Boys NONT TANONT , THE TOYS , TILLY BIRDS , THREE MAN DOWN , PROXIEและปล่อยจอยไปกับตัวจี๊ดฝั่ง Girls BOWKYLION , VIOLETTE WAUTIER และ ZOM MARIEเจอกันเสาร์ที่ 25 มีนาคมนี้ที่ Triple Tree Beach Resort (ใกล้ครัวเม็ดทราย) หาดชะอำเหนือ จ.เพชรบุรีบัตรราคา 1,500 บาทซื้อบัตรได้แล้ว ทาง website เท่านั้น ที่ https://bit.ly/BeachBoysAndGirlsMusicFest#BeachBoysAndGirlsMusicFest#BBAGMF#Atimeshowbiz#ตัวตึงTPop---------------------------------------------------------------------------

ขึ้นสู่ปีที่ 18 ของ Atimeshowbiz
01 ธ.ค. 2022
Ticket Now

ขึ้นสู่ปีที่ 18 ของ Atimeshowbiz

#Atimeshowbiz เข้าสู่ปีที่ 18 Fresh and Young แซ่บซ่าเสมอมาครึ่งหลังของปี 2023 จะมีคอนเสิร์ตอะไรจึ้ง ๆ อีก ต้องคอยติดตาม!!ไหนลองดูว่ารูปนี้มีคอนเสิร์ตอะไรซ่อนอยู่บ้าง? เคยไปดูคอนไหนกันบ้างเอ่ย?

HORO

1 ธันวาคม 2566 ดาวศุกร์ย้ายเข้าราศีตุลย์ มีทั้งดีและร้าย ราศีเราเป็นอย่างไร
30 พ.ย. 2023
HORO TODAY

1 ธันวาคม 2566 ดาวศุกร์ย้ายเข้าราศีตุลย์ มีทั้งดีและร้าย ราศีเราเป็นอย่างไร

ดาวพระศุกร์ตัวแทนแห่งความรัก ความสุขสมหวัง ความสวยงาม การเงินการทอง ความร่ำรวย ได้โคจรย้ายเข้าสู่ ราศีตุลย์ มีตำแหน่งเป็น เกษตร ได้ตำแหน่งความมั่นคง เข้มแข็ง แข็งแรง โดยมีระยะเวลาในการพยากรณ์ตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 เวลา 23.30 น. ถึงวันอังคารที่ 26 ธันวาคม 2566 เวลา 06.45 น. ส่งผลถึง ส่งผลโดยตรงลัคนาทั้ง 12 ราศี ติดตามอ่านกันได้เลยราศีเมษเก็บเงินเก่งมีสภาพคล่องทางการเงิน ทำอะไรก็มักเกิดเงินเกิดทอง รายได้ดี มีความมั่นคงทางการเงิน ชอบบริโภคในเรื่องของหุ้นส่วนชีวิตคู่ครองมีรูปร่างแข็งแรง ช่วยเหลือเกื้อกูลเราได้ แต่หากถ้าขึ้นศาลคู่ความฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งราศีพฤษภช่วงนี้ไปไหนมักจะแวดล้อมไปด้วยคนไม่ชอบหน้า ไปไหนไม่ค่อยมีความสุข แต่จะเก่งในเรื่องของการแก้ไขปัญหาและหากต้องมีการแข่งขันจะชนะเป็นส่วนใหญ่ราศีมิถุนมีโครงการหรือโปรเจค เกิดขึ้นใหม่ๆ มากมาย ในขณะเดียวกัน หากทำในเรื่องของที่เกี่ยวข้องกับเด็ก จะดีกับดวงชะตามาก และในช่วงนี้ดวงในเรื่องมีบุตร บริวารแข็งแรง มีมาตราฐานที่ดีราศีกรกฎบ้านช่องห้องหับ คนในเครือญาติไปหามาสู่มีความสงบสุข รักใครปรองดองกัน ได้อาศัยในสถานที่เราชื่นชอบหากท่านใดกำลังทำบ้านในช่วงนี้จะเสร็จเรียบร้อยตามที่วางแผนไว้ไม่มีบานปลายอีกด้วยราศีสิงห์การเดินทางติดต่อและเพื่อนฝูงนำลาภผลประโยชน์มาให้ ค้าขายเจรจาเก่ง หน้าที่การงานเป็นที่โดดเด่นที่คนชื่นชมชื่นชอบในผลงานของท่านราศีกันย์รายรับเข้ามาเป็นกอบเป็นกำ มีรายรับทะลุยอด เงินปันผลดอกเบี้ยก็มีกำไร หากจะให้ดีกับดวงชะตา ให้ข้องแวะข้องเกี่ยวกับแดนไกลด้วยแล้วยิ่งได้ผลลัพธ์ทวีคูณราศีตุลย์เป็นคนที่รักตัวเอง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หมั่นดูแลสุขภาพร่างกายมีบุคลิกภาพที่ดี รักความก้าวหน้าให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาและการทำงาน มีความมั่นคงระดับหนึ่งราศีพิจิกคู่ครองหุ้นส่วนสัญญา เอาเราไปพูดให้เสื่อมเสียกับคนนอก ทำให้เราถูกดูหมิ่นดุแคลน ถูกนินทาลับหลังราศีธนูการกู้หนี้ยืมสิน หรือ กู้ธนาคาร จะสามารถผ่านไปได้อย่างเรียบง่าย รวมถึงมีโอกาสที่จะใช้เงินที่กู้หนี้ยืมสินมาครบตามกำหนดระยะเวลาที่ได้วางแผนเอาไว้ราศีมังกรหน้าที่การงานได้ตำแหน่งแห่งความมั่นคงจะมีคนมาอุดหนุน ซัพพอร์ต ผลงานที่ท่านได้แสดงเอาไว้ มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง วางแผนบริหารจัดการให้ดีเพื่อป้องกันการรับงานที่จะเกิดคิวซ้ำซ้อนราศีกุมภ์การศึกษา ท่องเที่ยวเดินทางไกล ไปต่างประเทศ มีความพร้อม มีบ้านที่อยู่ในต่างประเทศราศีมีนมีโอกาสที่จะเกิดความเจ็บไข้ได้ป่วย หรือ เจ็บป่วยได้ง่าย มีการเดินทางไกล หรือการสูญเสียบางอย่างในช่วงนี้

24 พฤศจิกายน 2566 ดาวพุธย้ายเข้าราศีธนู มีทั้งดีและร้าย ราศีเราเป็นอย่างไร
22 พ.ย. 2023
HORO TODAY

24 พฤศจิกายน 2566 ดาวพุธย้ายเข้าราศีธนู มีทั้งดีและร้าย ราศีเราเป็นอย่างไร

ดาวพระพุธตัวแทนแห่งการติดต่อสื่อสาร เจรจา ประชาสัมพันธ์ สื่อสิ่งพิมพ์ โซเชียล ได้โคจรย้ายเข้าสู่ราศีธนู มีตำแหน่งเป็น ประ อ่อนกำลัง มีระยะเวลาในการพยากรณ์ตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 เวลา 03.58 น. ส่งผล ถึง วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลา 13.18 น. ส่งผลโดยตรงลัคนาทั้ง 12 ราศี ติดตามอ่านกันได้เลยราศีเมษมีความสำเร็จในการติดต่อเจรจาอยู่เสมอๆ มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ได้รับผลการศึกษาระดับสูงราศีพฤษภได้เงินจากการตาย เงินประกันต่างๆ ได้รับผลดีด้านมรดก มีคดีความในเรื่องเงิน ลงทุนผิดพลาดทำให้เสียเงินราศีมิถุนมีหุ้นส่วนที่ดี หุ้นส่วนหรือคนรักช่วยเหลือกัน คบสมาคมกับคนดีเปิดเผย ตรงไปตรงมา ดูแลความเป็นอยู่อย่างดี มีนิสัยคล้ายคู่ครองแต่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองราศีกรกฎพี่น้องสังคมเพื่อนฝูงส่วนใหญ่จะมีปัญหาขัดแย้งกัน การเจรจาติดต่อและการเดินทางใกล้ๆ จะเกิดอุปสรรคติดขัดอยู่เนืองๆราศีสิงห์เงินจะหมดไปกับบุตรหลาน บริวาร เลี้ยงดูลูกหลานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกิน หรือนำเงินไปลงทุนในโครงการอะไรใหม่ ๆ ได้เงินจากโชคลาภที่เกิดขึ้นไม่คาดฝันราศีกันย์สนใจเรื่องของญาติ ดูแลญาติ เมื่อถึงวัยที่สร้างเนื้อสร้างตัว จะเริ่มคิดสร้างบ้านก่อน บ้านเป็นที่ชุมนุมของญาติราศีตุลย์ค้าขายได้ผลประโยชน์ในเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา ค้าขาย กับ ต่างประเทศราศีพิจิกระวังเรื่องการกิน การอยู่จะพาให้เจ็บป่วย ได้เงินจากความเสียหายล้มตายของผู้อื่น หรือได้รับมรดกราศีธนูเจ้าชะตากับคู่หรือหุ้นส่วนสัญญาคิดอะไรคล้ายกัน ชอบเหมือนๆกัน ลักษณะท่าทางคล้ายกัน สามัคคีกลมเกลียวกัน คู่ครองหรือคู่สัญญาจะมีแนวโน้มที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเราราศีมังกรการศึกษาเล่าเรียนไม่ค่อยสำเร็จ ทำงานหรือสิ่งใดไม่จริงจัง หรือไม่แสดงให้คนอื่นรู้ถึงคุณค่าของตนเอง พอใจที่จะอยู่ไปเรื่อยๆราศีกุมภ์การลงทุน หรือ คบค้าสมาคมกับคนที่อายุน้อยในช่วงนี้มีเกณฑ์ที่ดีจะทำให้ท่านได้เกิดประโยชน์ ได้ชื่อเสียงเพราะหรือได้ประโยชน์เพราะกิจการเกี่ยวข้องกับเด็กราศีมีนทำกิจการงานร่วมกับครอบครัวหรือรับช่วงธุรกิจการงานต่อจากครอบครัว ญาติพี่น้อง หน้าที่ความรับผิดชอบ ปริมาณงาน เยอะขึ้น ตามตำแหน่งงานที่เลื่อนขึ้น

17 พฤศจิกายน 2566 ดาวอาทิตย์ย้ายเข้าราศีพิจิก มีทั้งดีและร้าย ราศีเราเป็นอย่างไร
15 พ.ย. 2023
HORO TODAY

17 พฤศจิกายน 2566 ดาวอาทิตย์ย้ายเข้าราศีพิจิก มีทั้งดีและร้าย ราศีเราเป็นอย่างไร

ดาวอาทิตย์ หรือหมายเลข 1 ในวิชาโหราศาสตร์ไทย เป็นดวงดาวที่ทำหน้าที่หรือตัวแทนของความมีชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์ อำนาจ วาสนา จึงทำให้ตำราต่างๆบรรจุไว้ว่า ราชการหมายถึงดาวดวงนี้และผู้มีชื่อเสียงต่างๆ ต้องมีดาวดวงนี้ดีและโดดเด่นทำมุมสวยงามกับดวงอีกด้วย แต่ใสครั้งนี้ดาวอาทิตย์เข้าสู่ราศีพิจิก ย้ายตั้งแต่วันวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.06 น. ยาวนานถึงวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 03.47 น. ลัคนาทั้ง 12 ราศี ดี-ร้ายประการใดติดตามอ่านกันได้เลยราศีเมษไม่ควรคบค้าสมาคมกับคนที่อายุน้อยกว่าจะทำให้เสียหาย หรือเลี้ยงบริวารไม่เชื่อง แต่จะได้มรดกเพราะเด็ก ควรชะลอการลงทุนเริ่มต้นใหม่ในช่วงดังกล่าวด้วยมีเกณฑ์จะขาดทุนได้รับความเสียหายราศีพฤษภจะมีบ้าน ที่ดิน เป็นหลักเป็นฐาน หลังจากแต่งงาน พ่อแม่อาจจะเป็นผู้จัดการแนะนำให้รู้จักกับคนรักหรือคู่ครอง มีการร่วมหุ้นร่วมลงทุนกันครอบครัว คู่ครองมุ่งอยากจะมีบ้าน อยากมีตำแหน่งการงานที่ดี อยากเจริญก้าวหน้าราศีมิถุนพี่น้องสังคมเพื่อนฝูงส่วนใหญ่จะมีปัญหาขัดแย้งกัน การเจรจาติดต่อและการเดินทางใกล้ๆ จะเกิดอุปสรรคติดขัดอยู่เนืองๆราศีกรกฎเงินจะหมดไปกับบุตรหลาน บริวาร เลี้ยงดูลูกหลานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกิน หรือนำเงินไปลงทุนในโครงการอะไรใหม่ ๆ ได้เงินจากโชคลาภที่เกิดขึ้นไม่คาดฝันราศีสิงห์สนใจเรื่องของญาติ ดูแลญาติ เมื่อถึงวัยที่สร้างเนื้อสร้างตัว จะเริ่มคิดสร้างบ้านก่อน บ้านเป็นที่ชุมนุมของญาติราศีกันย์เป็นตัวแทนหน่วยงานหรือองค์กร ไปประชุม อบรม เป็นวิทยากรบรรยาย หรืออาจมีเหตุให้ต้องเดินทางไม่คาดคิดราศีตุลย์การค้าการขายจะมีกำไรงดงาม ได้เงินจากการลงทุน หรือได้โชคลาภแบบฟลุ๊คๆราศีพิจิกหน้าที่การงานจะมีโอกาสสมหวัง เป็นที่ยอมรับ หรือ ได้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ จะมีความถือตนเอาแต่ใจตัวเองบ้างในช่วงนี้ราศีธนูการศึกษาเล่าเรียนไม่ค่อยสำเร็จ ทำงานหรือสิ่งใดไม่จริงจัง หรือไม่แสดงให้คนอื่นรู้ถึงคุณค่าของตนเอง พอใจที่จะอยู่ไปเรื่อยๆราศีมังกรได้ประโยชน์โชคลาภ จากความเสียหายของผู้อื่น หรือ ได้รับมรดกราศีกุมภ์คู่ครองหุ้นส่วนสัญญา มาทำงานร่วมกันเรา สามารถทำงานดูแลงานให้เราได้เป็นอย่างดีราศีมีนไม่ชอบไปบ้านคนอื่น ไม่ชอบเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านต่างคนต่างอยู่ เล่าเรียนมาอีกอย่างไปทำงานอีกอย่าง